“ณฐพร”มือเชือด3นิ้ว ก้าวต่อไปดับแสง”พิธา”
สั่นสะเทือนตามความคาดหมายภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า 3 แกนนำม็อบราษฎรปราศรัย เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 เข้าข่ายใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 จากนั้นก็มีความเห็นทั้งต่อต้านและเห็นคล้อยลำเลียงออกมาสู่สาธารณชนมากมายหลากหลายความคิดโดยผู้ที่เป็นผู้ยื่นคำร้องครั้งนี้คือ”นายณฐพร โตประยูร”วัย72ปี อดีตทนายความกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งทาง BBC Thai เคยนำเสนอข้อมูลไว้ว่า “เขามีปริญญาบัตรรวมกัน 12 ใบจากระดับปริญญาตรี โท และเอกของสถาบันต่าง ๆ อาทิ ปริญญาเอกสาขากฎหมาย ม.รามคำแหง, ปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาฯ, ปริญญาโทสาขาพัฒนาสังคม นิด้า, ปริญญาโทบริหารงานยุติธรรม ม.ธรรมศาสตร์ เป็นต้น
และตามประวัติถือว่า ณฐพร เป็น 1ในนักร้องมือฉมัง เพราะเคยยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ใน “คดีอิลลูมินาติ” แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติยกคำร้องไปเมื่อเดือน ม.ค. 2563 แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่รอดเมื่อโดนดาบสองจากนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นร้องเรื่องกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท และต่อมา 21 ก.พ.2563ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปี
และไม่เพียง คดี ชุมนุม 10 สิงหา ที่ณฐพร เป็นผู้ร้องแล้ว เขายังร้องกกต. ให้พิจารณาวินิจฉัยและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ฐานกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จากการกระทำ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกด้วย โดยคำร้องได้อ้างถึงการที่หัวหน้าพรรคและ ส.ส.พรรคก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหว แสดงความเห็นทางการเมือง เข้าร่วมกับผู้ชุมนุมและใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมืองที่มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมายและจาบจ้วงสถาบัน
ต่อมา “ณฐพร” ระบุเชื่อว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นฐานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีอาญากับทั้ง 3 คน รวมทั้งผู้สมรู้ร่วมคิดและผู้สนับสนุนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง พรรคการเมืองหรืออาจารย์มหาวิทยาลัยอื่นๆ นั้นย่อมหมายถึงคดียุบพรรคก้าวไกลที่กำลังถูกจับตา และถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริงก็เท่ากับเป็นการดับแสง”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”หัวหน้าพรรคที่กำลังมาแรงไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม เอฟเฟค จากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั้นถูกพูดกันกว้างขวางและไปไกลถึงขั้นสงครามการเมือง แต่ในความเป็นจริงโอกาสจะเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่ สาธุชนคนธรรมดาคงไตร่ตรองกันได้เอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news