วนลูป”ม็อบเด็ก”Vsลุงตู่
อารมณ์อยากร้องเพลงปลุกใจเกิดขึ้นมาโดยพลันสำหรับ “นายกฯลุงตู่”ที่อยู่ระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ จ.กระบี่เพื่อประชุม ครม.สัญจร เตือนดังๆไปถึงขบวนการเคลื่อนไหว ว่า อย่าทำลาย สถาบันหลักของชาติต้องเคารพ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นี่คือประเทศไทยเกิดที่นี่ กินที่นี่ หากิน ตายกันที่นี่อย่าทำลายสิ่งที่เรามีอยู่แล้วเลย แต่สร้างสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ให้มันพัฒนาไปสู่อะไรที่มันดีขึ้นก่อนนำ ร้องเพลง “บ้านเกิด เมืองนอน” หลังเมื่อวานมีภาพ “ม็อบเด็ก”เคลื่อนไหวชุมนุมที่แยกปทุมวันเพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือสถานทูตเยอรมัน ที่มีท่านฑูตออกมารอรับอย่างให้เกียรติเสียงของเยาวชน หน้าสถานทูต และเกิดเหตุมีผู้ชุมนุมถูกยิงระหว่างเผชิญหน้ากับชุดควบคุมฝูงชน บาดเจ็บสาหัส ที่ด้านข้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านถนนอังรีดูนังต์ ประเดิมการหลั่งเลือดทันทียกแรก ที่เปิดฉากการชุมนุมเป็นทางการในรอบหลายเดือนหลังโควิด
ที่เริ่มมีหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงไว้ตั้งแต่วันศุกร์ว่าข้อสรุปคำวินิจฉัยทำนอง “ปฏิรูป=ล้มล้าง”ที่มี “นักร้องฝ่ายอนุรักษ์”พากันหยิบฉวยมาขยายผลเพื่อ “ยุบพรรคฝ่ายค้าน”ทั้งก้าวไกล เพื่อไทย นั้น จะส่งผลต่อการขมึงเกลียวและกลายเป็นอัตราเร่งการวนลูปกลับไปสู่ภาพบนท้องถนน ปี2563 ดังท่าทีการไม่ยอมรับจาก แกนนำและมวลชน“ม็อบเด็ก” ที่กลายมาเป็นการเปิดฉากชุมนุม “ทะลุเพดาน”อีกครั้ง โดยหนนี้ “สัญญานความรุนแรง” ที่เกิดขึ้นทันที ที่มีการเริ่มชุมนุมเมื่อวาน(14พ.ย.) ของ “ม็อบ14พ.ย.”เป็นที่น่ากังวลจากหลายฝ่าย ที่ประเมินว่า ข้อสรุป ปฏิรูป=ล้มล้างนั้น เหมือนเป็นการ เปิดทางให้ตำรวจใช้ความรุนแรงยิ่งขึ้นทั้งทางกายภาพในการปฏิบัติต่อม็อบ และ กฎหมาย ในการดำเนินคดีย้อนหลัง เพราะถือว่า “ม็อบเด็กไม่ได้ใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ”
นอกจากนี้ มีการประเมินด้วยว่าจะยังคงมีการยกระดับของม็อบต่อไปในทุกจังหวะการเมือง ไม่แต่แค่พรุ่งนี้(16พ.ย.)ที่ รัฐสภาฯมีนัดพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนเสนอซึ่งเป็นร่างที่ “ไอติม” “พริษฐ์ วัชรสินธุ” จากกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ในฐานะแกนนำกลุ่ม Re-solution เสนอที่มีเนื้อหายกเลิกสว.และองค์กรอิสระ ซึ่งถือเป็นอีก “รูระบาย”บรรเทาสถานการณ์ภายนอก หากมีการรับเรื่องนี้พิจารณาในสภา โดย “ไอ้ติม”บอกว่าวันพรุ่งนี้เป็น ภาระการพิสูจน์ว่าวุฒิสภาเป็นองค์กรที่อาศัยงบประมาณอย่างน้อย 1 พันล้านบาทต่อปี ดังนั้น ภาระการพิสูจน์ต้องอยู่กับ ส.ว.ทั้ง 250 คน ว่าจะอภิปรายอย่างไร เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเห็นถึงประโยชน์ในการคงไว้ของวุฒิสภา ถ้าชี้แจงแล้วไม่ชัด ประชาชนไม่เห็นด้วย หรือเหตุผลที่ให้มาฟังไม่ขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การเดินหน้าสู่สภาเดี่ยวเป็นทางเลือกเดียวของประเทศนี้มากขึ้น
ขณะเดียวกันอีกด้าน ยังไม่ทันไรก็มีทั้งผู้คน สว.และ ส.ส.สาย “กองหนุนลุงตู่”ไม่ว่าจะเป็น “หมอวรงค์”และ“ไพบูลย์ นิติตะวันจาก พรรค พปชร.” ก็ออกมาเคลื่อนไหวส่งซิกแล้วว่า จะมีการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนี้ โดย “หมอวรงค์”เรียกร้อง ให้รัฐสภาคว่ำร่าง เพราะขบวนการล้มล้างการปกครอง ยังคงมีการเคลื่อนไหว ทั้งนอกสภาและในสภาสอดประสานกัน โดย นอกสภา (14 พ.ย.)มีการกล้าท้าทาย โดยการชุมนุมม่เกรงกลัวคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งรัฐบาลเจ้าหน้าที่รัฐต้องดำเนินการ เพื่อรักษากฎหมาย ส่วนในสภา เครือข่ายของขบวนการนี้ ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้าพิจารณาวาระแรกในรัฐสภา บรรจุพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.)
“หมอวรงค์”บอกด้วยว่า ประเด็นที่มีการเสนอเช่น1. ล้มวุฒิสภา ใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นสภาเดี่ยว ไม่ต้องมีวุฒิสภาอีกต่อไปนั้นเห็นว่า ขบวนการนี้คงประเมินแล้วว่า รัฐธรรมนูญ 60 จะให้มีการเลือก สว. กันเองจากกลุ่มอาชีพ โอกาสที่พรรคการเมืองจะครอบงำ สว. แทบจะยากมาก จึงใช้แผนล้มเลิก สว. ไปเลย เพื่อง่ายแก่การยึดครองประเทศ เพียงแค่รวบรวม ส.ส. เสียงข้างมากได้ 2.โละศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ จะเป็นองค์กรที่คอยตรวจสอบ ถ่วงดุลพวกรัฐบาลที่ทำลายชาติ ขบวนการนี้จึงต้องการทำลาย โดยเฉพาะต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญมาจากสส. รัฐบาล 3 คน ส.ส. ฝ่ายค้าน 3 คน และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 3 คน จะยิ่งทำให้องค์กรศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นเวทีขัดแย้ง ตัวแทนนักการเมืองอย่างชัดแจ้ง 3. ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และ 4. ล้างมรดกของคสช. ซึ่งน่าสงสัยว่าขบวนการนี้ไม่เคยตำหนิความชั่วร้าย การทุจริตคอรัปชั่น ขบวนการโกง ใช้อำนาจไม่ชอบ ออกกฎหมายล้างผิด ที่เป็นต้นตอปัญหาที่แท้จริงที่ประชาชนนับล้านไม่พอใจ แต่ขบวนการนี้กลับเงียบ ดังนั้นรัฐสภาจะต้องคว่ำร่างแก้ไขนี้ เพราะถ้าผ่านเขาจะยึดครองประเทศได้อย่างง่ายดาย
เรียกว่า “หมอวรงค์”ก็ยังมาใน “จุดยืน”ที่ไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ “นายกฯลุงตู่”ที่จะปกป้องโครงสร้างอำนาจที่มาจากรัฐธรรมนูญ60 ในจังหวะที่สถานการณ์มาในจุดที่เหมือนกับปี 63 ที่สุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้งแตกแยกทางความคิดของสังคมกลับมาอีกครั้งกับภาพ “นายกฯลุงตู่”กับ”ม็อบเด็ก”ที่รอบนี้ต่างตรงที่ “ม็อบเด็ก”มาในจังหวะ “เรตติ้งลุงตู่”กำลังตกตามโพล เพราะหมดมุกแก้ “โควิด-เศรษฐกิจ”และรัฐบาลถูกมองกำลังมีปัญหาเสถียรภาพจากความขัดแย้งภายในสุ่มเสียงต่ออุบัติเหตุการเมืองยุบสภาเลือกตั้งพอดี.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news