Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“เสี่ยโจ้ปัตตานี” หมายจับล่องหน หลบหนีไร้เงา!

Featured Image
“เสี่ยโจ้ปัตตานี” หมายจับล่องหน หลบหนีไร้เงา! สอบตำรวจอาจมีเอี่ยว

 

กองปราบ รวบเสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้ ยึด 2,000 ลิตร เงินสด 48 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงจับกุมนายสหชัย อายุ 53 ปี หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากคดีปี 2555 ชุดปราบน้ำมันเถื่อนฯ ตร. ได้จับกุมเรือลักลอบขายน้ำมัน ขณะลักลอบขายน้ำมันเถื่อน ที่บริเวณน่านน้ำ จ.สงลา ยึดของกลางน้ำมันเถื่อน 2 พันลิตร และเงินสด 48 ล้านบาท โดย ตร. ได้สืบสวนขยายผลไปจับกุมเสี่ยโจ้ นำตัวไปตรวจค้นที่พักพบเอกสารซื้อขายน้ำมันเถื่อน 400-500 ล้านลิตร โดยจำหน่ายไปกว่า 1 หมื่นครั้ง โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องไป และส่งไปที่อัยการสูงสุด ขณะนี้คดียังไม่เสร็จสิ้นอัยการอยู่ระหว่างสั่งสอบเพิ่มเติม ต่อมาปี 2558 พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เห็นว่าการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน จึงมีการออกหมายจับเพื่อปี 2564 และตำรวจจับกุมเสี่ยโจ้ได้ย่านห้วยขวาง เมื่อคืนที่ผ่านมา จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.ท.จิรภพ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนติดตามเสี่ยโจ้มาโดยตลอด พบประวัติมีการเดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้งจึงหาตัวยาก จากการตรวจสอบในตัวเสี่ยโจ้ พบใช้หนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นหนังสือเดินทางจริงหรือไม่ จากนี้จะนำตัวส่ง ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาไปดำเนินคดีกับผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทั้งคดีเก่าและใหม่ จะมีการขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สิน คดีฟอกเงิน ดำเนินการอย่างละเอียดทั้งหมด

 

โฆษกตร.แจงกรณีการจับกุมเสี่ยโจ้ เผยผบ.ตร.สั่งกองกฎหมาย-ผบช.ภ.9 เร่งตรวจสอบคดี ข้อบกพร่องทั้งหมด

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีการจับกุม นายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ เจียรเสริมสิน ที่มีข่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของส่วนราชการ โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการด่วนที่สุดให้ สำนักงานกฎหมายและคดีรวบรวมคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ นายสหชัย ทั้งหมดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องในข้อหาใดบ้างในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด อีกส่วนหนึ่งเกี่ยวกับกรณีที่ สำนักงานศาลยุติธรรม ยืนยันว่าศาลปัตตานี ได้ส่งหมายจับ นายสหชัยให้กับตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีแล้วตั้งแต่ 9 ต.ค.57 ซึ่งเรื่องนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ. 9 ตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าปรากฏว่าเป็นความบกพร่องของหน่วยงานใดหรือข้าราชการผู้ใดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาโดยทันที พร้อมขอยืนยันว่าการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้งหมด ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อตรวจพบและทราบเรื่องแล้วได้เร่งดำเนินการโดยทันทีทันใด และอยากให้ความมั่นใจว่าเมื่อทราบเรื่องแล้วก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่าในส่วนการชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงของแต่ละส่วนราชการ นั้น ในกรณีที่เป็นความรับผิดชอบของ ตร.หากพบว่าบกพร่องหรือทำให้เกิดความเสียหายอย่างไรก็ดำเนินการในส่วนรับผิดชอบ การทำงานในกระบวนการก็คงจะต้องมีการร่วมงานร่วมมือปฏิบัติ คงไม่ไปสร้างความขัดแย้งกับหน่วยราชการใด เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันไปในระบบกระบวนการ พร้อมยืนยันแม้ว่า เสี่ยโจ้ จะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วตามที่มีกระแสข่าว แต่เรื่องนี้มีกระบวนการติดตามจับกุมตัวอีกส่วนหนึ่งตามหมาย ถ้าพิจารณาในภาพรวมแล้วมีหมายหรือมีความผิดที่เกี่ยวข้องกับ นายสหชัย เกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่ง ผบ.ตร.ได้ให้กองกฎหมายและคดีเป็นหน่วยงานที่รวบรวมความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบว่ามีหมายจับค้างอยู่หรือมีความผิดที่เกี่ยวข้องก็จะต้องเร่งดำเนินการไป

 

ผบ.ตร.เห็นแย้งคำสั่งอัยการไม่ฟ้องคดีฟอกเงิน”เสี่ยโจ้ปัตตานี” พร้อมยอมรับมีตำรวจบกพร่อง ปมไม่พบหมายคดีทำหลบหนีไปได้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีหมายจับของ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “เสี่ยโจ้ปัตตานี” หายไปจากสารบบของศาล และมาพบในวันถัดมาที่มีการปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไปแล้ว เบื้องต้นจากการรายงานด้วยวาจา เป็นไปตามที่ข้อเท็จจริงที่ศาลได้แถลงข่าว โดยมีการส่งหมายจับไปยังพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในพื้นที่ และมีตำรวจรับหมายจับที่ศาลส่งไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ โดยให้จเรตำรวจเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบทางวินัย โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีตำรวจกี่นายที่เกี่ยวข้อง ทำไปตามระเบียบในการรับหมายจากองค์กรอื่นหรือไม่ โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานกฎหมายและคดีตรวจสอบคดีที่ตำรวจดำเนินคดีกับเสี่ยโจ้ปัตตานี มีทั้งหมด 14 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 11 คดี เหลือ 3 คดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ประกอบด้วย คดีค้าน้ำมันเถื่อนที่มีการสั่งสอบเพิ่มเติม เนื่องจากมีการกระทำความผิดหลายครั้งกว่าหมื่นรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างประสานศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อนเรื่องพยานหลักฐานว่าดำเนินการถึงขั้นตอนใด

ส่วนคดีที่ 2 คือสำนวนคดีฟอกเงินที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และส่งเรื่องกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพลตำรวจเอกสุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นแย้งกลับไปเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา และส่วนคดีที่ 3 คือคดีที่อยู่ในอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.

ผบ.ตร ยังยืนยันด้วยว่า ยังมีหมายจับที่บังคับใช้ได้ คือหมายจับของศาลอุทธรณ์จังหวัดปัตตานี นำตัวมาดำเนินคดี ซึ่งมีโทษจำคุกและยังไม่หมดอายุความ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมีการแถลงความชัดเจน ยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube