เป็นที่จับตามองของสังคมอีกครั้งกับคดี การเสียชีวิตของน้องชมพู่แห่งบ้านกกกอก หลังจาก ทนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้ขอถอนตัวจากการเป็นทนายความให้กับ ลุงพล และป้าแต๋น พร้อมกับ โพสต์ข้อความชี้แจง ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจดังกล่าวเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ไม่ได้มีปัญหาหรือผิดใจอะไร นอกจากนี้ ยังชี้แจง โดยยืนยันว่า ไม่เคยได้รับเงินเพื่อช่วยทำคดีแต่อย่างใด ทำด้วยใจล้วนๆ แต่มาถึงวันนี้จะขอใช้เวลาไปทำคดีให้กับคนที่เห็นคุณค่าดีกว่า และขอให้ลุงพลและป้าแต๋นโชคดี
ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า แท้ที่จริงแล้ว ทีมทนายตั้ม กับลุงพลป้าแต๋น มีปัญหา อะไรกันหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ทนายตั้มก็เดินหน้าช่วยเหลือลุงพล ป้าแต๋น อย่างเต็มที่
หนึ่งในนั้นคือ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ที่ออกมาไลฟ์สด วิเคราะห์การถอนตัวของทนายลุงพล โดยทั่วไป ทนายความจะถอนตัวเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกันต้องเป็นความคิดเห็นในการต่อสู้คดีเท่านั้น เช่น ลุงพลอยากจะรับสารภาพ ทนายให้สู้คดี อะไรทำนองนี้ เรียกว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน ต้องถอนตัวเพราะกระทบต่อรูปคดี แต่เท่าที่ติดตามข่าว เห็นมีการถกเถียงกันเรื่องค่าจ้างทนาย โดยอ้างว่า แฟนคลับ ลุงพลบอกว่า ทนายได้รับค่าจ้างไป แต่ทนายบอกว่าไม่เคยได้รับค่าจ้าง ก็มีการถกเถียงและวิพากษณ์วิจารณ์กันหนักในเรื่องนี้
“ผมได้รับแจ้งจากคุณอัจฉริยะ ว่ามีทีมทนายความคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าคนไหน อัจฉริยะเล่าให้ฟังว่าเค้าก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในการต่อสู้คดีเหมือนกัน เพราะมันมีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเส้นผม ตอบคำถามไม่ได้ว่าทำไมไปอยู่ในรถของลุงพลอันนี้ก็เหมือนกันนะครับ หลังจากตรวจพยานหลักฐานมันก็จะเห็นพยานหลักฐานที่แท้จริงแล้วนะ ว่าหลักฐานที่แท้จริงนั้นนิติวิทยาศาสตร์มัดลุงพลหรือไม่ แล้วก็หวังนะครับว่าการถอนตัวของทนายความนะครับ ไม่ได้มาว่า ไม่ได้มาจากสาเหตุ กลัวว่าแพ้คดีเลยหาทางลงก่อนวันที่ศาลจะตัดสิน “
ร้อนถึงทีมทนายความของลุงพล ป้าแต๋น อีกราย คือ ทนายรัชพล ศิริสาคร ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมทนายความ ที่ถูกทนายตั้ม ชักชวนให้มาร่วมทีมเพื่อเป็นทนายว่าความให้กับฝั่งลุงพล ต้องออกมาชี้แจงในประเด็นเรื่องเงินค่าจ้างทนาย โดยระบุว่า เหตุผลที่ทางทนายตั้ม ขอถอนตัวนั้น เนื่องจากมีความคิดเห็นทางคดีไม่ตรงกับลุงพล เมื่อได้พูดคุยกันแล้วแต่ไม่สามารถที่จะปรับความเข้าใจซึ่งกันได้ ทำให้ทนายตั้มต้องประกาศถอนตัวจากการทำคดี แต่ไม่ได้มีสาเหตุทะเลาะกันหรือโกรธเกลียดกัน ทาง เพราะทางทนายตั้มและลุงพลยังสามารถพูดคุยกันได้อยู่ ส่วนข่าวลือเรื่องค่าว่าจ้างทำคดีถึง 10 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริงเพราะทนายตั้ม ได้ประกาศตั้งแต่ต้นไปแล้วว่าคดีนี้เขาช่วยทำให้ฟรี จนทำให้ถูกร้องเรียนเรื่องมารยาทวิชาชีพไปแล้ว
ในส่วนค่าจ้างข่าวลือว่า ว่าจ้างทำคดี 10ล้านบาทนะครับ เป็นข่าวลือนะครับ ต้องเรียนอย่างนี้นะครับว่า ทนายตั้มได้ประกาศตั้งแต่แรกแล้วนะครับว่า คดีนี้เขาทำให้ฟรีไม่คิดเงินเป็นเหตุให้ทนายตั้มถูกร้องเรียนมารยาททนายความ เรื่องประกาศรับคดีฟรี ก็คดีในส่วนนั้นเดี๋ยวทนายตั้มก็ว่ากันไป แต่ว่า ก็ต้องบอกว่า คดีนี้ทนายตั้มเขาประกาศว่าทำฟรี ส่วนตัวผมพี่โจ้ผมไม่รู้ ส่วนตัวผมทนายตั้มเป็นคนดึงมา ดังนั้นการที่ผมจะรับค่าจ้างหรืออะไร ลุงพลไม่เกี่ยว ผมไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับลุงพล ทนายตั้มเขาเป็นคนดึงผมมาเพราะฉะนั้น ถ้าผมจะเรียกค่าทนายหรืออะไรก็เป็นเรื่องของผมกับทนายตั้ม ไม่เกี่ยวกับลุงพล
ขณะที่ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เอง ก็ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ทนายตั้มในทันที พร้อมกับย้อนถามว่าทนายตั้ม ทันทีว่าเป็นอะไร เพราะส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทนายตั้ม ไม่นานมานี้ก็เพิ่งเจอกันที่บ้านกกกอก พร้อมระบุว่ามีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ ส่วนตัวรู้ทั้งหมด แต่เลือกที่จะไม่พูด
ทนายตั้มเป็นอะไรครับ ที่ถามผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทนายตั้มทนายตั้มเพิ่งมาที่กกกอก เมื่อวันที่ 22-23 พ.ย. เจอกันแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วในไลฟ์สดของทนายรัชพล ทนายตั้มพูดถึงพระอาจารย์ ไม่น่าจะเกี่ยวกับตน หรือมีปัญหาอะไรกับลุง มันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า ผมถามหน่อย ผมรู้ แต่ผมเลือกที่จะไม่พูด ขอบคุณแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจเสมอ
อย่างไรก็ตาม ในการถอนตัวออกจากการเป็นทนายความให้กับลูกความนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 65 บัญญัติว่า ทนายความที่ตัวความได้ตั้งแต่งให้เป็นทนายในคดีจะมีคำขอต่อศาลให้สั่งถอนตนจากการตั้งแต่นั้นก็ได้ แต่ต้องแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่าทนายความผู้นั้นได้แจ้งให้ตัวความทราบแล้ว เว้นแต่จะหาตัวความไม่พบวรรค 2 เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอแล้ว ให้ศาลส่งคำสั่งนั้นให้ตัวความทราบโดยเร็วโดยวิธีส่งหมายธรรมดาหรือโดยวิธีอื่นแทน แล้วแต่จะเห็นสมควร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
