เพื่อไทย เตรียมยื่นแก้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง-เลือกตั้ง ส.ส. 7 ธ.ค.นี้ – ปรับขั้นตอนไพรมารีโหวต ก้าวไกลกั๊กส่งพี่ธนาธรผู้ว่าฯกทม.
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันความคืบหน้าการเตรียมเสนอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยว่า ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะยื่นเสนอแก้ไขต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภาเพื่อนำไปสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ก่อนนำเข้าบรรจุวาระการประชุมร่วมรัฐสภา
ส่วนรายละเอียดการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการเสนอแก้ไขขั้นตอนการทำPrimary voteโดยให้มีสาขาพรรคการเมืองหรือผู้แทนประจำจังหวัดเพียง 1 แห่งในจังหวัดที่พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัคร ก็สามารถทำ Primary vote ในทุกเขตเลือกตั้งได้แทนกฎหมายเดิมที่กำหนดว่าพรรคการเมืองใดจะส่งผู้สมัครในเขตใดจะต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือผู้แทนประจำจังหวัดในเขตการเลือกตั้งนั้น ๆขณะเดียวกับพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ต้นมกราคมปีหน้า คาดว่า จะได้อภิปรายช่วงปลายมกราคม 2565 หรือต้นกุมภาพันธ์2565 ซึ่ง ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล
ก้าวไกล แถลงหลังเลื่อนญัติตั้งกมธ.ศึกษาขบวนเสด็จไม่สำเร็จ โวยสภาไม่ให้ความสำคัญ ฉะรัฐบาลให้โหวตขานชื่อไม่ตรงเจตนารมณ์
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนางสาววรรณวรี ตะล่อมสิน และสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.ของพรรค แถลงหลังสภาฯ
มีมติไม่เห็นด้วยเลื่อนญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาข้อเท็จจริงข้อบกพร่องกรณีขบวนเสด็จฯที่พรรคก้าวไกลยื่นเสนอไว้ขึ้นมาพิจารณาในวันพรุ่งนี้ก่อนว่าพรรครู้สึกเสียใจว่าสภาฯไม่เห็นความสำคัญของญัตติฯดังกล่างมีคนเห็นด้วย 45 เสียง ล้วนเป็น ส.ส.ของพรรคก้าวไกลโดยได้ญัตติยื่นไว้เมื่อ 27 ตุลาคม 2563 ผ่านมา 1 ปี ที่ญัตติรอพิสูจน์ความจริงกรณีความวุ่นวายขบวนเสด็จซึ่งพรรคต้องการเปิดเผยความจริงและทักท้วงว่าพรรคร่วมรัฐบาลเสนอเลื่อนเอาญัตติอื่นแทรกขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้พรรคเสนอเลื่อนขึ้นบ้างสัปดาห์นี้ แต่สภาฯยังยืนยันไม่ให้ญัตตินี้ได้เข้าพิจารณาในชั้นกรรมาธิการอีกทั้งฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลยังเสนอโหวตแบบขานชื่อ ซึ่งไม่ตรงเจตนารมณ์
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยืนยันเดินหน้าตามหาความจริงในญัตตินี้ ว่าต้องต่อสู้เข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการต่อไปให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วม ซึ่งเบื้องต้นนายณัฐชา
บอกว่าได้หารือกับทางวิปรัฐบาลแล้วและมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถตั้งกรรมาธิการชุดดังกล่าวขึ้นในสัปดาห์หน้าโดยเชื่อว่าการตั้งกรรมาธิการชุดนี้ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายและประชาชนต้องการรับทราบความจริงสำหรับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นต่อขบวนเสด็จฯส่วนกรณีที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่ร่วมสนับสนุนญัตตินี้นั้น พรรคก้าวไกล เคารพการตัดสินใจการโหวตของพรรคค้านโฆษกก้าวไกล ปัดเตรียมส่ง”ศิริกัญญา”ลงชิงผู้ว่าฯกทม. ยันส่งแน่ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนคัดสรร ไม่ปฏิเสธ มีชื่อพี่สาว”ธนาธร” นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคก้าวไกลเตรียมส่ง นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งได้คุยเรื่องนี้กับนางสาวศิริกัญญา ซึ่งนางสาวศิริกัญญา ก็ยังตกใจถึงกระแสข่าวนี้
ทั้งนี้ ขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครนั้น จะทำภายใต้สโลแกน “ใหม่ ชัด โดน” แต่ย้ำว่าพรรคก้าวไกลส่งแน่นอน โดยขั้นตอนนั้นจะเปิดนโยบายก่อนจากนั้นจึงจะค่อยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภายหลัง และไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นคนในหรือคนนอกพรรคพร้อมกันนี้ นายณัฐชา ปฏิเสธที่จะกล่าวว่านางสาวชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวของประธานคณะก้าวหน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะมาเป็นผู้ว่าในนามพรรคก้าวไกล พร้อมกล่าวสั้นๆว่า ยังอยู่ในระหว่างกระบวนคัดสรรของพรรค
กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ยื่น กมธ.พัฒนาการเมือง สอบตำรวจสลายชุมนุม 14 พ.ย. ชอบหรือไม่ หลังพบประชาชนถูกยิง
นายสัตวแพทย์ ปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับหนังสือจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมและกลุ่ม We volunteer เพื่อขอให้กรรมาธิการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่รวมถึงการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกินกว่าเหตุหรือไม่
โดยนายวชิรกรณ์ วิภาศรีนิมิต ตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า เนื่องจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธได้มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมจากจุดนัดหมายที่แยกปทุมวันไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันประจำประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณถนนสาทรใต้ เพื่อยื่นหนังสือแถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์ต่อผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนผ่านบริเวณ หน้าสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมและมีการใช้กระสุนยางเพื่อปราบปรามประชาชนที่มาชุมนุมส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
โดยหนึ่งในนั้นถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบชนิดที่บริเวณหน้าอกช่วงสิ้นปีและอีกรายถูกยิงบริเวณไหปลาร้าอีกทั้งหลังการประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 19.30 น.
ยังพบผู้ร่วมชุมนุมถูกกระสุนยางยิงบริเวณ หน้าผากอีกราย พร้อมตั้งข้อสังเกต ว่า สะเก็ดไฟที่ออกจากปลากระบอกปืน ดูใหญ่กว่าการยิงกระสุนยางอยากให้คณะกรรมาธิการช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่าการตรวจสอบการสลายการชุมนุมจะมีข้อมูล 2 ชุด คือ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐและข้อมูลจากผู้ชุมนุม คณะกรรมการก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานทั้งหมด ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจบริสุทธิ์ใจต้องเอาหลักฐานของตัวเองมาแสดงด้วย ที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือน้อยมากและมีการอ้างอยู่เสมอว่าปฏิบัติตามหลักสากล โดยวันนี้ เก็ได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน มาชี้แจงต่อ กมธ. ซึ่งพยายามที่จะพูดคุยว่าแนวทางควรจะเป็นอย่างไร แต่ได้รับความร่วมมือน้อยมาก เช่น กรณีที่มีการจับกุมนักข่าวเมื่อปีที่แล้ว กว่าที่จะเชิญมาได้ต้องใช้เวลาถึง 6 ครั้ง
ทั้งนี้ จะเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจอยู่ขณะเดียวกัน ถ้าการชุมนุมโดยสันติ การนำเสนอข่าวอย่างเสรียังเป็นไปไม่ได้ ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการโดนคุกคามทั้งคดีความที่เกิดขึ้นกับพรรคการเมือง สื่อมวลที่โดนลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก นอกจาก กมธ.พัฒนาการเมืองจะดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้แล้ว พรรคก้าวไกลก็จะดำเนินการในสภาด้วยที่จะทำให้พื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยกันสามารถเป็นไปได้