รมช.สาธิต แจงสภารับมือโอไมครอน มีแผนชัดเจน มั่นใจเอาอยู่ ขออย่าตระหนก อย่าประมาท เร่งศึกษาพัฒนาวัคซีน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบกระทู้สดด้วยวาจา ต่อที่ประชุมสภาฯ ของนายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เรื่องมาตรการป้องกันและรองรับโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนที่กำลังระบาดในหลายประเทศทั่วโลก โดยยืนยันว่า การเปิดประเทศเพื่อฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแผนรองรับไว้อย่างดี ถือว่ากระทำได้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วงเปิดประเทศพบปัญหาหลายอย่างแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี พร้อมยอมรับว่า การหยุดยั้งไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ไม่ง่าย แต่จะควบคุมให้ได้ ดังนั้น ไม่ควรตื่นตระหนก แต่ก็ไม่ประมาท สำหรับนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศเสี่ยงที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ผ่านการคัดกรองแล้ว 122 ราย กักกันไว้ เพื่อสังเกตอาการ 11 ราย ซึ่งเป็นการตรวจซ้ำเพื่อให้ได้ผล 100% พบว่า มีผลเป็นลบและต้องกักตัวอีก 14 วัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของไทย
ส่วนการเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีนนั้น ยืนยันว่า การผลิตวัคซีนของต่างประเทศกำลังติดตามและศึกษาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรัฐบาลไทยได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และอีกหลายบริษัทก็กำลังเร่งวิจัยพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ เพื่อรับมือโควิดสายพันธุ์โอไมครอน อีกทั้ง รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขพยายามรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองตามมาตรการของระบบสาธารณสุข และจะสู้โควิดภายใต้ศักยภาพ
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาตอบกระทู้สดด้วยวาจา ต่อที่ประชุมสภาฯ ของนายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย ตั้งคำถามถึงผลชี้วัดการเปิดประเทศและแนวทางในการขยายโครงการหลังจากนี้ รวมถึงการรับมือกับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ว่า จากสถานการณ์เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดขึ้นยังไม่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวแถบยุโรปและอเมริกายกเลิกเที่ยวบินที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยซึ่งในส่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คัดกรองนักท่องเที่ยวที่เข้ามาอย่างเข้มงวด และติดตามนักท่องเที่ยวที่มาจากทวีปแอฟริกาตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นต้นมา เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลและตรวจหาเชื้ออย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นมา ไทยไม่มีนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาเข้ามาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน นายพิพัฒน์ มั่นใจว่า มาตรการของประเทศไทยจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศอีกอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการดูแลพื้นที่ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 60,000 คน แต่พบผู้ติดเชื้อเพียง 200 คน หรือ 0.3 เปอร์เซ็นต์ และไม่ได้มีการแพร่ระบาดระหว่างกัน มีการคัดกรองดูแลระหว่างชาวต่างชาติและคนไทยอย่างชัดเจน ไม่มีการแพร่ระบาดร่วมกันระหว่างการแพร่ระบาดของคนไทยและนักท่องเที่ยว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news