เลือกสงบไม่จบที่ลุง

เลือกสงบไม่จบที่ลุง รัฐธรรมนูญฉบับบประชาชนถูกปัดตกไม่ใยดี ฝ่ายค้านเห็นที่พร้อมเลือกตั้ง

              ในจังหวะ “วันรัฐธรรมนูญ”ปีนี้ ไม่มีอีเว้นท์เคลื่อนไหวบนถนน กดดันรัฐบาล”นายกฯลุงตู่” แบบที่ผ่านมา

เพราะถือเป็น “วันสัญลักษณ์”การเคลื่อนไหวของม็อบการเมือง นับแต่รุนลุงป้าน้าอายุค”คนเสื้อแดง”มาจนถึงรุ่นหลาน เจนZ  อย่าง”ม็อบเด็ก”ทะลุฟ้าที่มีประเด็น “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ”ที่เป็น “เครื่องมือสำคัญ”ของ “ฝ่ายอำนาจ คสช.”ในการสืบทอดอำนาจทางการเมืองแบบยิงยาว จนภายหลังมีการเรียกว่า “ระบอบประยุทธ์” อาจเพราะส่วนหนึ่งเด็กๆถูกทำให้ล้าถดถอย กับสภาพการถูกทุบถูกนวด จัดการผ่าน “โหมดความมั่นคง”ในยุค “3ป.”ที่มีการดำเนินการทั้งทางคดี ไม่นับรวมปฏิบัติการ “มวลชนจัดตั้ง”แบบที่เด็กเรียก “มินเนียล ”และ การจัดการการชุมนุมโดยตำรวจชุดควบคุมฝูงชน กับแกนนำอย่างอานนท์,รุ้ง,ไผ่,เพนกวิ้น ที่ควบคุมจนเฟดหายไปจาก “หน้าปัดข่าว” และมวลชนม็อบเด็ก อย่างจริงจังดุดัน

            หรือแม้กระทั่งในกระบวนที่มีการเข้าชื่อของประชาชนนำเสนอ “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน”

โดย ไอติม และ ไอลอว์ ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ถูกสภาฯตีตกไปแบบปิดประตูตาย เหลือไว้แต่เพียงข้อเสนอ ที่ได้ไปต่อ จากฝ่ายการเมือง ว่าด้วยการเลือกตั้งบัตรสองใบ ที่กลายเป็น”ชนวน”ไปสู่ จังหวะการเปลี่ยนแปลงจากภายในของ“ศูนย์อำนาจ”เอง ทั้งจาก ความเป็นไปโดยสภาพปัญหาบ้านเมืองกับสถานการณ์โควิดและวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ผู้คนเริ่มรับไม่ได้กับการบริหารจัดการของรัฐบาล ในโควิดภาค3 สายพันธุ์เดลต้า ที่ระเบิดระเบอร์ประเทศไทย มีผู้คนเจ็บตายจากโควิดที่เกิดจากการตัดสินใจวันสงกรานต์จำนวนมาก ไม่นับรวมปัญหาการจัดการการฉีดวัคซีน และการจัดการรักษาที่เกิดภาพเตียงเต็มตายข้างถนนหรือตายที่บ้าน ในท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่ลามลงสู่ปัญหาปากท้อง แบบ “เจ็บไม่รู้จบ”ที่ปลายทาง ทุกคนหาที่ลงที่รัฐบาลที่“นายกฯลุงตู่”ที่ประกาศบริหารแบบ “ซิงเกิ้ลคอมมานด์”ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

              ที่อาการถูก“ทัวร์ลง”จากครหาการบริหารสถานการณ์โควิดผิดพลาดแบบที่ “ฝ่ายค้าน”นำไป “ซักฟอก”อย่างดุเดือด

ทำให้ส่งผลกระทบต่อเรตติ้งนายกฯ ไม่นับรวม “เกมกบฏผู้กอง”ที่แต้ม “ไว้วางใจ”ของนายกฯออกมารองบ๊วย และการทำโพลลับสำรวจ “ส.ส.กทม.และส.ส.ใต้”ที่มาโดยกระแส “นายกฯลุงตู่”จนต้อง “ปลด2รัฐมนตรี”  ก็ยิ่งทำให้ตอกย้ำ จนกลายเป็น “ศึกนายพล-ผู้กอง”ที่ส่งผลกระทบจากล่างขึ้นบนจากบนลงล่างและออกข้าง ทั้งกระทบภาพความสัมพันธ์ “พี่น้อง3ป.”ทั้งกระทบ “ภายในพรรคพลังประชารัฐ”และ”พรรคร่วมรัฐบาล”ไปจนถึงการกระทบไปยังงานกับชาวบ้านแบบกรณี “ม็อบจะนะ”ล่าสุดที่กลายเป็นเรื่อง “เข้าเนื้อ”รัฐบาล

             จนทำให้ภาพ “3ป.ฟอเอเวอร์”กอดหลังจับแขนเกาะพุงล่าสุด

ถูกมองว่าลึกๆจะเป็นเช่นที่เห็นหรือไม่ในฉากถัดไปหากถึงจังหวะ เข้าสู่โหมดสภากับการพิจารณากฎหมายสำคัญทั้งเรื่องเงินเรื่องทองที่ดึงเช็งกันไว้ ที่ “นายกฯลุงตู่”กังวลถึงกับเปรยดัง “ถ้าไม่มีอุบัติเหตุการเมือง”ก่อนหน้า ที่หากเกิด “อุบัติเหตุ”จริงก็ยากที่จะอยู่ได้ครบเทอมถึงปี66 อย่างที่บอกกับชาวบ้านไว้ ที่ก็ยังไม่นับรวมถึงการมีปัญหาข้อกฎหมายการนับอายุนายกฯอยู่ได้ไม่เกิน2สมัยที่ “นายกฯลุงตู่”อยู่มาจะครบ8ปีในเดือนสิงหาคมปีหน้า ที่เป็นอีกปัญหาที่จะเกิดขึ้นที่จะส่งผลกระทบต่อมนต์ขลังมอตโต้ “เลือกสงบจบที่ลุง”ที่เคยใช้ได้  และนำมาสู่ “เหตุผล”ที่คนกุมสภาพพรรคพปชร.ทั้ง “หัวหน้าป้อม”และ”ผู้กองนัส”จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคแบบเต็มแม็กซ์ 3 คน

                  ในขณะที่เกมกระดานอำนาจการเมืองทั้งหมด อยู่ในสภาพที่ทุกฝ่ายทางการเมืองไม่มีใครกล้าประมาท

ที่จะไม่เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ดังการเปิดตัวลงพื้นที่ และการพยายาม “วัดเรตติ้ง”ทุกสนามศึกทั้งสนามเล็กใหญ่ แบบไม่สนมารยาททางการเมือง ดังการห้ำหั่นแข่งขันกันเองในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่ส.ส.ว่างลง2ที่นั่ง ของพลังประชารัฐ กับ ประชาธิปัตย์  ไม่รวมพรรคร่วมอื่น ถึงขนาดบรรดาผู้อาวุโสทางการเมืองพากันส่ายหัวกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป.

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news