นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ และยังคงเป็นที่น่าจับตามองสำหรับมาตรการและระบบคัดกรองของสนามบินต่างๆ
ซึ่งนับเป็นจุดสำคัญจุดแรกสำหรับการคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเมื่อเข้าสู่ประเทศไทย โดยบรรยากาศบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันนี้ มีผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกเดินทางกันอย่างต่อเนื่อง และยังคงมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น
ทีมข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. พาคุณผู้ชมมาติดตามบรรยากาศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่า เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรป เอเชีย และอเมริกา โดยวันนี้ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ก็ลงพื้นที่ตรวจมาตรการและระบบคัดกรอง สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ด้านมาตรการและระบบคัดกรองโควิด-19 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงมีการปฏิบัติอย่างเข้มข้น โดยมีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดขนาดเล็ก หรือ Thermoscan ก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร จัดตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ รวมทั้ง ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สำหรับผู้โดยสารจากต่างประเทศจะขอตรวจใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry: COE) หรือตรวจด้วยวิธีการสแกน QR Code ระบบ Thailand Pass มีการตรวจวัดอุณหภูมิ หากไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส จะเข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นผู้โดยสารรับสัมภาระ ด่านศุลกากร และนำผู้โดยสารไปพบตัวแทนโรงแรมสถานกักตัวทางเลือก ทำการตรวจ RT-PCR ณ โรงแรม ต่อไป
ด้านผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เมื่อเช็กอิน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารตามที่ประเทศปลายทางกำหนดก่อนออกบัตรโดยสาร (Boarding Pass) จากนั้นสามารถเข้าสู่ขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทางตามปกติต่อไป
สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ เมื่อเช็กอินต้องเตรียมเอกสารตามที่จังหวัดปลายทางกำหนด พร้อมตรวจสอบเอกสารยืนยันการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และเอกสารแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 RT-PCR หรือ Antigen Test Kit (ATK) ส่วนผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ เมื่อลงจากอากาศยานจะผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนรับกระเป๋าและเดินทางออกจากท่าอากาศยาน
ด้านดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพยายามปรับปรุงและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมแผนรับมือในอนาคตอย่างดียิ่งขึ้น โดยขณะนี้มีการเสนอการปรับมาตรการเข้มข้นต่อศบค. ซึ่งเสนอการตรวจหาเชื้อจาก ATK เป็น RT-PCR ทั้งหมด คาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่จะไม่สะดุด
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องคุมเข้มมาตรการต่อไป โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้เข้ามานี้ สามารถป้องกันตนเองได้ดีที่สุด คือการฉีดวัคซีน เร่งบูสเข็ม 3 สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง พร้อมปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews