โอไมครอน-เลือกตั้ง
ศบค. เคาะระงับรับ นทท. Test & go -แซนด์บ็อกซ์ชั่วคราว ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ว่า ให้ระงับการลงทะเบียนประเภท Test & go และแซนด์บ็อกซ์ ไว้เป็นการชั่วคราวยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
ซึ่งมาตรการนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 หลังจากนั้นจะมีการพิจารณา สถานการณ์หรือมาตรการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนในระบบภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือ Test & go มาแล้วประมาณ 200,000 คน และได้รับอนุมัติแล้วประมาณ 110,000 คน และรอการอนุมัติอีก 90,000 คน จะสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามแผนที่ได้วางไว้ตามปกติ แต่จะมีมาตรการเสริมคือ จะต้องมีการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่2 รัฐบาลจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ และจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
“ส่วนนี้นายกรัฐมนตรี ฝากย้ำว่ามีสื่อบางสำนัก เสนอว่ามีการปิดรับนักท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่ความจริง แต่เป็นการระงับไว้ชั่วคราว และย้ำว่าคนที่ลงทะเบียนมาแล้วประมาณ 200,000 คนข้างต้น สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติ แต่จะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นเท่านั้นเอง”
ปิดประเทศ-ของขวัญปีใหม่
ในที่สุด “นายกฯลุงตู่”ศบค.ก็จำต้อง สั่งปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันนี้(21ธ.ค.) ส่วนนักท่องเที่ยวและคนไทยที่ลงทะเบียนไว้เดิม ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ตามปกติ จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง 4 ม.ค.65 อันเป็นมาตรการ รับมือโควิดสายพันธุ์โอมิครอนโดยตั้งแต่วันนี้จะไม่รับนักท่องเที่ยวรายใหม่ โดยขณะนี้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาผ่านระบบ Sandbox และ Test & Go ประมาณ 110,000 คน จากที่อนุมัติให้เดินทางเข้าประเทศ 200,000 คน เหลือค้างในระบบที่จะเดินทางเข้ามาอีก 90,000 คน พร้อมดักคอนักข่าว ว่า รัฐบาลกำลังพยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้ขอสื่ออย่าเพิ่งมาถาม ในกรณีเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว และจะตรวจหาเชื้อไม่เจอในช่วงที่เดินทางเข้ามา เพราะที่ผ่านรัฐบาลมาไม่ทราบมาก่อนว่าสายพันธุ์โอมิครอนจะเข้ามาตอนนี้ แต่ทั้งหมดเราก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในประเทศ โดยจะต้องแก้ไขไปตามลำดับ ส่วนมาตรการปีใหม่ ยังคงเป็นมาตรการเดิม วันนี้ไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลง
ขณะที่ “หมอหนู”บอกว่า “จากนี้ไปจะต้องจัดการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้มงวดขึ้น แต่ในส่วนที่ค้างท่ออยู่จำนวนเกือบ 2 แสนคนที่ทำข้อมูลในระบบ Thailand pass ก็ต้องปล่อยให้เขาผ่านเข้ามาก่อนเพราะมีการจองโรงแรมแล้ว และยังต้องทำระบบ Test and Go ต่อไป ก่อนปรับเปลี่ยนมาตรการ ส่วนจะหมดเมื่อใดนั้นต้องถามรายละเอียดจากอธิบดีกรมควบคุมโรค เพราะตนได้มีการให้แนวทางเรื่องนี้ไปแล้ว คือประชาชนคนไทยต้องปลอดภัย ต้องลดความเสี่ยงในทุกมิติ และทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งเป็นแนวทางของรัฐบาล แต่เราก็ต้องฟังผู้ปฏิบัติงานด้วยว่าสามารถทำได้แค่ไหน เกิดผลดีผลเสียอย่างไร และถ้าหากมีผลเสียมากกว่า ก็มีสิทธิที่จะโต้แย้งฝ่ายบริหารที่เราก็ต้องรับฟัง
ทางด้านการเมือง ล่าสุดมีการเปิดตัวผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม.
โดยมีตัวเต็งเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ และ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ทำให้การเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ครั้งนี้ดูคึกคักขึ้นมา หลังจากผู้ว่าคนล่าสุด อย่างพล.ต.อ.อัศวิน ขัวญเมือง ผู้ที่ถูกแต่งตั้งจากมาตรา 44 ตั้งแต่ พ.ศ.2557 ทำหน้าที่จนถึงปัจจุบันดูจะไม่เป็นที่พอใจของทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนถึงขั้นส่งผู้ว่าหมูป่ามาชิงผู้ว่ากทม.ในนามพลังประชารัฐแทน แต่สุดท้ายก็ได้ยกเลิกไป
ล่าสุดฝ่ายค้านไม่พอใจหลังรัฐบาลปล่อยให้สภาล่มครังแล้วครั้งเล่า หวั่นเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง หลังรัฐบาลออกมติกู้เงินเพิ่ม
ครม.เห็นชอบใช้เงินกู้ 3.59 หมื่นล้าน จัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์-แอสตราเซเนกา 90 ล้านโดส เยียวยาผู้ประกันตนสถานบันเทิง กระตุ้นการท่องเที่ยว Thailand Festival Experience
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ครม.เห็นชอบการใช้เงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กรอบวงเงินรวม 35,967 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการหลัก ดังนี้
โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ประจำปี65 รวม 90 ล้านโดส กรอบวงเงิน 35,060 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 30 ล้านโดส, วัคซีนแอสตราเซนเนกา จำนวน 60 ล้านโดส
โครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิงและผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ กรอบวงเงิน 607.15 ล้านบาท ดำเนินการโดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสำนักงานประกันสังคม จะเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนกับผู้ประกันตนในอัตรารายละ 5,000 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายโครงการทั้งสิ้น 121,431 คน แบ่งเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 10,762 คน และผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 จำนวน 110,669 คน รวมวงเงิน 607 ล้านบาท
โครงการ Thailand Festival Experience กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท ดำเนินการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 200,000 คนต่อครั้ง และสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการไม่น้อยกว่า 2,347 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่
โครงการ Amazing Sports & Extreme Month กรอบวงเงิน 100 ล้านบาท โครงการนี้เป็นการจัดแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ รวม 10 ครั้ง อาทิ การแข่งขันจักรยานทางไกล การแข่งขัน Surf Skate Surf Kite Surfboard and Extreme Sports การแข่งขันไตรกีฬา การแข่งขันวิ่ง City Run และเทศกาลว่าวนานาชาติ โดยจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ 10 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่เชียงใหม่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา อุดรธานี ชลบุรีสงขลา และเพชรบุรี ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 6.2 แสนอัตรา และเกิดกระจายรายได้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคบริการกว่า 550 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 5.65 หมื่นคน (ชาวต่างชาติ 6,500 คน และชาวไทย 50,000 คน), โครงการ Dazzling of the Andaman กรอบวงเงิน 100 ล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายเป็นแรงงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 10,000 ราย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน โดยมีรูปแบบกิจกรรม คือ จัดกิจกรรมถ่ายทอดวัฒนธรรมเมืองภูเก็ตผ่านแสงสีและสื่อผสม, จัดเทศกาลประดับไฟ ณ แหลมพรหมเทพ, จัดกิจกรรมแสดงผลงานทางศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่และพังงา และ การจัดแสดงพลุ ณ แหลมพรหมเทพ ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการกว่า 1,300 ล้านบาท
โครงการ Music Festival & Rhythm in Memory กรอบวงเงิน 100 ล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายเป็นแรงงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 10,000 คน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีรูปแบบกิจกรรม คือ จัดมหกรรมดนตรีที่รับชมบนเรือสำราญ, จัดแสดงดนตรี Beach Music Festival ภูเก็ต (หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และเกาะนาคา) และการออกร้านของผู้ประกอบการ Start Up SME และวิสาหกิจชุมชน ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้ คือ 1)เกิดการกระจายรายได้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการกว่า 497 ล้านบาท คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 8,500 คน และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30,000 คนต่อครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews