เกมการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์ อาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ นัดแรก โดย “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์ 5 สมัย โคจรมาพบกับคู่รักคู่แค้นอย่าง ทีมชาติเวียดนาม
ซึ่ง ทีมชาติไทย ผ่านเข้ามาด้วยสถานะแชมป์ของกลุ่มเอ จากการเก็บชัย 4 นัดรวด มี 12 คะแนนเต็ม โดยชนะ ชนะ ติมอร์ เลสเต 2-0 , ชนะเมียนมา 4-0 , ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 และชนะเจ้าภาพ สิงคโปร์ มาได้ 2-0
ส่วนทีมชาติเวียดนาม ผ่านเข้ามาด้วยสถานะรองแชมป์ของกลุ่ม บี ซึ่งลูกได้เสียเป็นรองแชมป์กลุ่มอย่าง อินโดนิเซีย จากการชนะ 3 เสมอ 1 นัด มี10 คะแนน โดยชนะ ลาว 2-0 , ชนะ มาเลเซีย 3-0 , เสมอ อินโดนิเซีย 0-0 และชนะกัมพูชา 4-0
โดยเกมนี้สภาพความพร้อมของ “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ถือว่าเต็มสูบหลังนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะสิงคโปร์ มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย มีการโรเตชั่นนักเตะทั้ง 11 ตำแหน่ง ทำให้ตัวหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ,ชนาธิป สรงกระสินธิ์ , สารัช อยู่เย็น, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และ ธีราทร บุญมาทัน ได้พักเต็มที่ ขณะแข้งรายอื่นเกมนี้พร้อมลงสนามทุกราย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน
ขณะทีมชาติเวียดนาม อาจดูล้ากว่า ทัพช้างศึก ที่พักน้อยกว่าและนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ก็ยังจัดเต็มส่งชุดใหญ่ลงสนามพบกับ กัมพูชา
ซึ่งคาดการณ์ว่าในนัดนี้ ทีมชาติเวียดนาม คงมาในสไตล์ถนัดที่เน้นตั้งรับแน่นและโต้กลับเร็ว ส่วนไทย ก็คงมาเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างแน่นอน เพื่อชิงความได้เปรียบในนัดต่อไป
อย่างไรก็ได้ทางด้าน โจ้ 5 หลา ศรายุทธ ชัยคำดี อดีตกองหน้า “ช้างศึก” ทีมชาติไทย รวมถึงยังผ่านการค้าแข้งในวี ลีก เวียดนาม มาแล้ว ได้ให้ทรรศนะของคู่นี้ และสิ่งที่ ทีมชาติไทย ควรแก้ไขให้ได้
สำหรับทีมชาติไทย จะพบกับ เวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน โดยนัดแรกจะแข่งขันในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 และนัดที่สองจะแข่งขันในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ในเวลา 19.30 น. ทั้งสองนัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews