คมฝ่ายค้าน”พิธา-หมอชลน่าน” ดาวจรัสแสงปี64
ซูเปอร์โพล ประชาชนประทับใจ นายกฯมากสุดของฝ่ายรัฐบาล ขณะซีกฝ่ายค้าน “พิธา”เข้าป้าย ชอบผลงานรัฐมากสุด “คนละครึ่ง” ส่วนพรรคการเมือง พลังประชารัฐ-เพื่อไทย มาอันดับ 1
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ จากกรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,086 ตัวอย่างระหว่างวันที่ 11–17 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่น่าประทับใจ พอใจที่สุดแห่งปี 3 อันดับแรก ร้อยละ 31.6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี, ร้อยละ 22.4 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, ร้อยละ 8.8 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วน นักการเมืองฝ่ายค้าน ที่น่าประทับใจ พอใจที่สุดแห่งปี 3 อันดับแรก ร้อยละ 32.9 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก้าวไกล, ร้อยละ 15.0 นายสุทินคลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ร้อยละ 5.1 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ขณะที่ ผลงานรัฐบาลที่น่าประทับใจ พอใจที่สุดแห่งปี 3 อันดับแรก ร้อยละ 50.4 โครงการ คนละครึ่ง, ร้อยละ 12.6 เพิ่มกำลังซื้อ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และร้อยละ 11.4 ประกันรายได้เกษตรกร
ทั้งนี้ เมื่อถามถึง พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ พอใจที่สุดแห่งปี ร้อยละ 30.3 พรรคพลังประชารัฐ, ร้อยละ 23.9 พรรคประชาธิปัตย์ และ ร้อยละ 17.4 พรรคภูมิใจไทย ส่วน พรรคฝ่ายค้านที่น่าประทับใจ พอใจที่สุดแห่งปี ร้อยละ 41.6 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 32.5 พรรคก้าวไกล และ ร้อยละ 11.3 พรรคเสรีรวมไทย
นอกจากนี้ ประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทในภูมิภาคและเป็นที่พอใจของคนไทย ร้อยละ 39.4 สหรัฐอเมริกา เพราะเป็นประชาธิปไตย รับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีความเจริญเป็นประเทศมหาอำนาจ ล้ำสมัย ช่วยเหลือเรื่องวัคซีน, ร้อยละ 27.1 จีน เพราะ ช่วยเรื่องวัคซีน เข้าใจวัฒนธรรมไทย เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และ ร้อยละ 13.6 อังกฤษ เพราะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ก้าวไกล มีความเจริญ มีระบบการศึกษาที่ดี
“ชลน่าน”จี้รัฐเข้มคัดกรองมากกว่านี้ หลังพบผู้ติดเชื้อโฮไมครอนรายแรกในไทย ป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังจากมีผลยืนยันว่าไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นรายแรก ว่ารัฐบาลต้องเข้มมาตรการกักกันตัว และติดตามผู้ใกล้ชิดและเสียงสูงโดยเร็วที่สุดเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้างและที่สำคัญรัฐต้องเปิดเผยความจริงอย่าปิดยังเพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังได้ และต้องเร่งการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็มสองหรือเข็มกระตุ้นให้ได้ร้อยละ 70 โดยเร็ว
พร้อมยอมรับว่ามีความกังวลที่สุดกับสถานการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน ซึ่งมองว่ามาตรการที่รัฐบาลเตรียมรับมือขณะนี้ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตามแนวชายแดน เพราะการระบาดูในประเทศไทยที่ผ่านมามีเพียงครั้งแรกที่มาทางอากาศ ที่เหลือมาจากชายแดนหรือช่องทางธรรมชาติ มาตราที่มีอยู่ไมสามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถป้องกันตามแนวชายแดนได้ จึงเรียกร้องรัฐบาลต้องมีมาตรการเข้มไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะนำแรงงานเข้ามา ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีการลักลอบแรงงานเข้ามาอยู่ หากตัดเรื่องนี้ได้แล้วเพิ่มมาตรการในการคัดกรองให้ชัดเจนเชื่อจะสามารถเอาอยู่ เพราะแม้จะระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้าถึง 5 เท่า แต่อาการจะไม่รุนแรง
ส่วนมาตรการการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ นายชลน่าน เชื่อว่าสามารถคัดกรองได้เพราะมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน แต่ย้ำว่าเป็นห่วงตามแนวชายแดนหรือช่องทางธรรมชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
