เอกชนโล่งใจไปได้เปราะหนึ่งกับมติศบค. ไม่ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เพื่อสกัดโอไมครอน แต่เลือกที่จะยกระดับพื้นที่ให้เป็นระดับสีส้ม หรือพื้นที่ควบคุม 69 จังหวัด และเลื่อนการเปิดเมืองท่องเที่ยวกับมาตรการ Test&Go ออกไปไม่มีกำหนด ซึ่งการยกระดับมาตรการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นโดยรวมบ้าง แต่ทั้งนี้ เอกชนประเมินว่าก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ว่าจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
แน่นอนว่า เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายวันเพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่า ตัวเลขที่ปรากฏย่อมส่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นมาตรการทางการคลังจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะประคับประคองเศรษฐกิจไทย นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้พบผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการ ศบค. ที่ไม่มีการล็อกดาวน์ แต่มีการควบคุมเฉพาะกิจกรรมก็เชื่อว่าจะเพียงพอที่จะดูแลสถานการณ์ของโอไมครอนได้
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2565 เชื่อว่าจะขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 4 ตามที่สภาพัฒน์ ได้เคยประเมินไว้ โดยพระเอกสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต้องยกให้ การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ก็จะดำเนินการไปตามแผน โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มในเดือนมีนาคมนี้
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงการระงับการเข้าประเทศแบบ Test & Go เพื่อเฝ้าระวังโอไมครอน ว่า การสั่งระงับดังกล่าวเชื่อว่าจะไม่กระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติยังสามารถกลับมาประเทศไทยได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเองน่าจะมีการเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ได้มีคำสั่งล็อกดาวน์ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด
โดยการล็อกดาวน์ทั้งประเทศในปี 2563 ที่ผ่านมาทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหายกว่า 8 แสน-1 ล้านล้านบาท และในปี 2564 การสั่งล็อกดาวน์ บางส่วนใน 29 จังหวัด ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เศรษฐกิจเสียหายประมาณ 3-5 แสนล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์ฯ ยังคงประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี2565นี้ว่า จะสามารถขยายตัวได้เกินร้อยละ 4 แต่หากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนบานปลาย ก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3.5 ได้
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจในห้วงจังหวะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไอไมครอนเพิ่มสูงสุดอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2565 นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
