แม้ล่าสุดกรมปศุสัตว์จะออกมายอมรับว่ามีการแพร่ระบาดของโรค ASF ในสุกร แต่การออกมาวางมาตรการต่างๆ ไม่ได้มีท่าทีที่จะทำให้ราคาเนื้อหมูปรับตัวลดลงรวมไปถึงราคาอาหารสัตว์ และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรหลายรายไม่มั่นใจ และต้องการที่จะหยุดการเลี้ยงสุกร เนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงสูง แม้ในอนาคตทิศทางราคาอาจปรับตัวขึ้นไปในช่วงตรุษจีนกว่ากิโลกรัมละ 300 บาทก็ตาม
โดยนายยุทธนา นวมนิ่ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เปิดเผยทีมข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ASF ในสุกรทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 มีความกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าวและหากเลี้ยงสุกรจนครบในรอบนี้จะหยุดทำการเลี้ยงเนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงที่อาจไม่คุ้มทุน รวมไปถึงราคาต้นทุนทั้งอาหารสัตว์และยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการเลี้ยงดูสุกรระยะเวลา 6 เดือนต่อการเลี้ยง 1 รอบ มีต้นทุนที่สูงขึ้นทำให้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะได้รับ
ด้านเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ในพื้นที่อ.ปากท่อ ต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาหมู หน้าฟาร์มแม้ปรับสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 85 บาทเป็น 98 บาท แต่ราคาต้นทุนที่สูงขึ้นและโรคระบาดที่แพร่กระจายในขณะนี้ ไม่คุ้มต่อความเสี่ยงเนื่องจากเกษตรกรรายย่อยบางส่วนต้องกู้เงินจากธนาคารเพื่อมาเป็นต้นทุน ซึ่งหากเกิดปัญหาอาจจะต้องเป็นหนี้ในระยะยาว ส่วนการจะกลับมาเริ่มเลี้ยงสุกรอีกเมื่อไหร่นั้นยังไม่สามารถตอบได้เนื่องจากต้องดูทิศทางและท่าทีของโรคระบาดว่าจะจบลงเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตามจากเสียงสะท้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรอยากให้รัฐบาลเร่งเข้ามาดูแลช่วยเหลือ ทั้งเรื่องโรคระบาดและการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมไปถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อให้มีวงเงินเข้ามาดูแลเกษตรกรทดแทนการกู้เงินจากธนาคารเพื่อสร้างความมั่นใจในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews