จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมู ไก่ ไข่ ที่พร้อมใจปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบกับค่าครองชีพของประชาชน คนหาเช้ากินค่ำ
โดยล่าสุดราคาเนื้อหมูหน้าเขียงพุงสูงถึง 260 บาท/กก. และคาดว่าช่วงตรุษจีนอาจทะลุไปถึง 300 บาท/กก.ได้ ซึ่งนอกจากปัญหาการระบาดของโรค AFS แล้วต้นทุนราคาอาหารเลี้ยงสัตว์ที่สูงขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยส่งผลให้ราคา หมู ไก่ ไข่ แพงขึ้นเช่นกัน
ล่าสุดนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดในสุกร และเร่งแก้ปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์ โดยเสนอแนวทางสูตรอาหารลดต้นทุน และขอให้เลี้ยงในระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ได้พูดคุยกับ นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล เปิดเผยว่าราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปัจจุบัน ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มว่าจะปรับสูงขึ้นอีก เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูง ตามตลาดโลก เช่น กากถั่วเหลือง เมล็ดถั่วเหลือง ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 20 บาทต่อกิโลกรัม และวัตถุดิบในประเทศที่ขาดแคลน จึงทำให้ราคาทุกอย่างขยับขึ้นหมด
ทั้งนี้ นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ยังได้กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้ราคาวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์แพงขึ้นว่า เกิดจากความต้องการสินค้าของประเทศต่างๆ ที่เริ่มเปิด และปัญหาภัยแล้งของประเทศที่ขายวัตถุดิบสำคัญ รวมไปถึงวัตถุดิบในประเทศที่ขาดแคลน โดยเฉพาะข้าวโพดที่อยู่ในขั้นวิกฤต
อย่างไรก็ตามคงต้องจับตามองแนวโน้มราคาสินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด รัฐบาลจะมีมาตรการใดในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน และช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในประเทศอย่างไรต่อไป เพื่อให้พ้นวิกฤตครั้งนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews