จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ASF ในสุกรทำให้ชาวบ้านใน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มีความกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าว และหยุดทำการเลี้ยงเนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงที่อาจไม่คุ้มทุน รวมไปถึงราคาต้นทุนทั้งอาหารสัตว์ ยาปฏิชีวนะ และวัคซีน มีราคาแพง ในการเลี้ยงดูสุกรระยะเวลา 6 เดือนต่อการเลี้ยง 1 รอบ ซึ่งระยะเวลากว่า 6 เดือนเกษตรกรจะมีกำไรจากหมูเพียงแค่ตัวละ 1,000 บาท
ด้านเจ้าของฟาร์ม พรชัย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การปรับขึ้นราคาจนทำให้ราคาหน้าเขียงมีราคาแพง เป็นเพราะเกิดโรคระบาดมีจำนวนหมูลดลง รวมไปถึงพ่อค้าคนกลางปรับขึ้นราคา เพราะราคาหน้าฟาร์มมีแต่ถูกลง ยิ่งหากเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อโรคระบาดจะทำให้ราคาหน้าฟาร์มหมูลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 30 บาท จากปกติที่มีราคาอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัมทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเร่งเข้ามาดูแลช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรอย่างจริงจังในทุกๆกลุ่ม เพื่อให้มีเงินไว้ต่อทุนในอนาคต
ด้านกระทรวงพาณิชย์ โดยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสต๊อกหมูราคา และปริมาณสุกร ของห้องเย็น บริษัท พิชชามีท กรุ๊ป จำกัด เขตมีนบุรี เพื่อตรวจสอบซ้ำ หลังจากที่ผู้ประกอบการแต่ละราย ได้แจ้งสต๊อก มายังกรมการค้าภายใน ว่ามีการแจ้งตามจริงหรือไม่ สำหรับห้องเย็นพิชชามีท เป็นโรงงานขนาดกลาง สามารถเก็บสินค้าได้ประมาณ 50 ตัน และมีการบริหารจัดการตามคำสั่งซื้อ ทั้งแบบเข้า และออกต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีสต๊อกคงค้างอยู่เยอะเกินไป เพราะจะมีผลต่อคุณภาพ และน้ำหนักสินค้าจะลดลง
ซึ่งขณะนี้ พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กำลังเร่งตรวจสอบสต๊อก ดูทั้งปริมาณที่แจ้ง และความเคลื่อนไหวของสต๊อกทั้งเข้าและออก ว่ามีการค้าขายกันตามปกติหรือไม่ โดยราคาหมูหน้าฟาร์มเวลานี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 110 บาท ราคาหน้าเขียงจะใช้ราคาหน้าฟาร์ม คูณ2 จำหน่ายให้ประชาชน
พร้อมย้ำผู้ประกอบการรายใดมีหมูเข้ามาเพิ่มในสต๊อกตลอดเวลา แต่ไม่มีการระบายออก อาจจะเข้าข่ายความผิดกักตุน และปฏิเสธการจำหน่าย ตามพรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกสูงสุด ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการ ว่า ภาครัฐ จะบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาดและมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
จากนี้คงต้องมาติดตามว่าระยะข้างหน้าราคาเนื้อหมูจะเป็นเช่นไร ยิ่งเข้าสู่ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนความต้องการอาจมีมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเพิ่มเติมได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
