นายกลั่นไม่ยอมแพ้หลังมีปัญหาเป็นรบ.ปริ่มน้ำเปิดเพลง”อย่ายอมแพ้”ขอทำงานเพื่อชาติและประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์
ทั้งนี้ ที่ประชุมจะมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่มีการระบาดตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.2564และมีแนวโน้มที่กลายเป็นสายพันธุ์หลักในการแพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก ประกอบกับการเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายประเทศกลับมาเพิ่มระดับความเข้มงวดมาตรการควบคุมและล็อกดาวน์อีกครั้งซึ่งอย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าการระบาดครั้งก่อน เนื่องประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน สะท้อนให้เห็นว่ามีแนวโน้มความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์เดลต้า นอกจากนี้ ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งเป็นประเทศแรกที่มีการระบาดสายพันธุ์องค์ไมครอน มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างรวดเร็วหากเทียบกับการแพร่ระบาดระลอกก่อน
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการรายงานสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยการส่งเสริงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และความคืบหน้าในการเปิดรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ที่ได้มีการเร่งรัดพิจารณาความเหมาะสมและคุ้มค่าในการดำเนินการ ที่สำคัญต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมศบศ. นายกรัฐมนตรี ได้หันมามองสื่อมวลชน และยกมือไหว้ทักทายตามปกติ
นายกฯ เปิดเพลง”อย่ายอมแพ้” ของ อ้อม-สุนิสา กลางวงประชุม ศบศ. ลั่นไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว ทำงานเพื่อชาติและประชาชน
หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบศ.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสั้นๆ กับสื่อมวลชน ว่า ให้รอฟังการแถลงข่าว มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงท้ายก่อนจบการประชุม ศบศ. นายกรัฐมนตรีได้เปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือ “เพลงอย่ายอมแพ้” ของ อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์พร้อมบอกกับที่ประชุมว่า “ผมไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว” ซึ่งการเปิดเพลงเป็นเรื่องให้กำลังใจทุกคนที่ร่วมทำงานไม่แพ้ต่อ ปัญหาอุปสรรค เช่นเดียวกับนายกฯ ที่ไม่เคยยอมแพ้ทำงานเพื่อชาติและประชาชน
ซึ่งคาดว่าสาเหตุมาจากความขัดเเย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยเมื่อคืนนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ปล่อยคลิปเปิดใจหลังถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ พร้อม ส.ส. 20 คน ว่ายังนอนหลับสบาย แต่เป็นห่วงเพื่อน ส.ส. ในพรรคว่าใครจะดูแล เพราะที่ผ่านมาตนและ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นคนสนับสนุนดูแล ส.ส. ในการลงพื้นที่ และการที่ตนเป็นคนพูดตรงไปตรงมา อาจทำให้คนบางคนไม่ชอบและไม่ยอมรับความจริง จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ดีกว่า โดยจะไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ที่มีการเตรียมการมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งจะมีการเซอร์ไพรส์ ด้วย
โดยคาดกันว่าน่าจะเปิดให้กำลังใจตัวเองหลังจากมีประเด็นกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จนอีกฝ่ายต้องถูกขับออกจากพรรค แต่ผู้กองทำแสบปล่อยคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ในเช้าวันนี้ โดยเนื้อหากล่าวว่า
“ธรรมนัส”ปล่อยคลิปวิดีโอ ยังห่วงบ้านเก่า จะอยู่กันอย่างไร ย้ำเป็นคนตรงไปตรงมาจบก็คือจบ คุยพรรคใหม่บ้านใหม่มีเซอร์ไพรส์ เตรียมพร้อมนานแล้ว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกขับออกจากพรรคพร้อมกับส.ส.อีก 20 คน ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า “ตอบคำถามที่หลายท่านอยากรู้ เมื่อคืนผมนอนหลับไหม พรรคใหม่คือที่ใด ความรู้สึกหลังจากออก ลาออกกับขับออกต่างกันอย่างไร เป็นแค่ละครฉากหนึ่งจริงไหม การออกมามีผลยังไงต่อการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน”
โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวมีความยาว 3.27 นาที โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ตอบคำถามต่าง โดยคำถามแรกเมื่อคืนหลับสบายหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ตั้งแต่เสร็จจากการประชุม โทรศัพท์ก็เข้ามา พอวางสายก็สายซ้อนมาตลอดเวลา จนถึงเกือบตี 1 กว่าจะได้อาบน้ำ สวดมนต์ไหว้พระ และดูหนังนิดหน่อย เพราะไม่ได้เครียดอะไร แล้วก็นอนหลับสบาย
“ลาออกกับขับออกต่างกันอย่างไร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า โดยกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 ถ้าเราลาออกจะสิ้นสภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แต่ถ้าถูกขับออก โดยมติของคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. โดยใช้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุม เรียกว่าขับออกจากความเป็นสมาชิกของพรรค ไม่เหมือนกันพอถูกขับออกมาแล้วสถานะ ส.ส. ยังอยู่ มันต่างกัน
ร.อ.ธรรมนัส ตอบคำถามต่อว่า ที่ว่าความรู้สึกแรกหลังออกมา “คือห่วงบ้านเก่าอะ เอาตรงๆ นะครับ ห่วงบ้านเก่าว่าพี่น้องเราหลายคนที่เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ เขาจะอยู่กันอย่างไรถ้าไม่มีเราดูแลเขา ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาที่บ้านเมืองมีวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนใหญ่แล้วที่ ส.ส. ไปลงพื้นที่ก็ได้รับการสนับสนุนจากพี่ทั้งนั้น 80% จากพี่กับหัวหน้าพรรคทั้งนั้น หลังจากไม่มีเราแล้วใครจะทำให้เขา ใครจะดูแลเขา
การออกมามีผลอย่างไรต่อการช่วยเหลือประชาชน ร.อ.ธรรมนัส ระบุ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าอยู่บ้านเก่าหลายอย่างทำได้ไม่เต็มที่ เพราะด้วยเงื่อนไขหลายอย่างที่ไม่ต้องไปพูด ในหัวใจเราที่สั่งสมองให้ทำงาน เรายึดหลักผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เราเอาปัญหามาทำเป็นโจทย์มาเป็นคำถามตัวเองว่าจะแก้อย่างไร ท้ายที่สุดมันทำไม่ได้ ก็อยากจะมาทำด้วยตัวเอง อะไรที่ทำด้วยตัวเอง มีความมั่นใจว่ามันจะมีคุณภาพมากกว่า
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่าตนเป็นคนตรงไปตรงมา ฉะนั้นการพูดตรงไปตรงมาอาจไม่เป็นที่ถูกใจของนักการเมืองบางกลุ่ม เพราะฉะนั้นภาพที่ออกสื่อก็เพราะเราทำงาน ทำให้หลายคนไม่ชอบ คนอย่างตนเคลียร์จบก็คือจบ ไม่เคยที่จะเอามาเป็นประเด็น มันอยู่ด้วยกันแล้วไม่ยอมรับความเป็นจริง เมื่อจบก็ต้องจบ เมื่อจบไม่จบ เราก็แยกกันเดินดีกว่า
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า บ้านหลังใหม่ มันไม่ใช่พรรคที่เพิ่งเกิด เป็นพรรคที่เกิดมานานพอสมควร ครั้งหนึ่งที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะใช้เป็นพรรคหลัก ซึ่งพรรคนี้เมื่อเปิดตัวมาแล้วทุกคนก็ร้องอ๋อเป็นพรรคของใคร เรามีความพร้อมทุกเรื่อง องค์ประกอบอื่นๆ เราพร้อมหมด แล้วบ้านหลังใหม่เราเตรียมมานานแล้ว เดี๋ยวมีเซอร์ไพรส์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews