เศรษฐกิจไทยถือว่าอย่างย่ำแย่ในปัจจุบันซ้ำเติมด้วยราคาสินค้าและต้นทุนที่สูงทำให้ราคาสินค้านั้นปรับตัวสูงขึ้นและปัจจุบันราคาน้ำมันยังพุ่งสูงต่อเนื่องซึ่งเป็นอีกประเด็นที่ทำให้เอกชนผู้ผลิตจ่อขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากแบกรับต้นทุนไม่ไหว แม้ภาครัฐจะขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้า แต่ขณะนี้ไม่สามารถแบกรับได้
การปรับขึ้นราคาสินค้าแน่นอนว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน ผู้ซื้อโดยตรง ทั้งของสด ของแห้งทีมข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ได้ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าโดยเฉพาะพืชผักที่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ พบว่า ผักกาดขาวกิโลกรัมละ 25 บาท โหระพากิโลกรัมละ 50 บาท ผักชีกิโลกรัมละ 80-90 บาท ผักขึ้นฉ่ายกิโลกรัมละ 40 บาท ผักชีฝรั่งกิโลกรัมละ 50 บาท ผักกาดหอมกิโลกรัมละ 60บาท คะน้ากิโลกรัมละ 30 บาท ต้นหอมกิโลกรัมละ 50 บาท ผักกาดหอมกิโลกรัมละ 60 บาท
ด้านราคาน้ำพืชปาล์ม ราคายังสูงอยู่ที่ 65 บาทต่อขวด น้ำมันพืชปาล์มแบบถุง 1 ลิตร 80-90บาท เนื้อหมูราคา 170-210บาท ตามชนิดของเนื้อ เช่นหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 170 บาท สะโพกกิโลกรัมละ170บาท สันใน-สันนอกกิโลกรัมละ190บาท สามชั้นกิโลกรัมละ 210บาท หมูบดกิโลกรัมละ170บาท ซี่โครงหมูกิโลกรัมละ170-200บาท ไก่สดกิโลกรัมละ 60-90บาท เช่น ไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องในกิโลกรัมละ 60บาท น่องไก่กิโลกรัมละ 70 บาท น่องไก่ติดสะโพกกิโลกรัมละ70 บาท เนื้ออกติดหนังกิโลกรัมละ 75 บาท เนื้อไก่ล้วนกิโลกรัมละ 80 บาท เนื้อสันในไก่กิโลกรัมละ 85 บาท ปีกเต็มกิโลกรัมละ 90 บาท ด้านไข่ไก่แผงละ 105-115 บาท ตามขนาดของไข่ไก่
ทั้งนี้ จากการสอบถามร้านค้า บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สำหรับราคาผักในตลาดนี้ราคายังทรงตัวไม่ปรับขึ้นจะมีเพียงผักกาดหอมเท่านั้น ราคาปรับขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 60 บาทจากเดิมกิโลกรัมละ 40 บาท สำหรับตลาดยิ่งเจริญทางเจ้าของตลาดหรือผู้ที่ดูแลได้ขอความร่วมมือให้ร้านค้าทุกร้านปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการตรึงราคาสินค้าเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนจึงทำให้ราคาสินค้าในตลาดยิ่งเจริญหลายรายการยังไม่ปรับราคาขึ้น
ขณะที่ราคาสินค้าถือว่าตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่มา ราคาสินค้าหลายอย่างแพงต่อเนื่องเพราะต้นทุนสูงโดยร้านค้าแต่ละร้านได้ปรับตัวโดยการลดปริมาณลงหรือชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกค้าซึ่งจะมีบางประเภทเท่านั้นที่ปรับราคาขึ้นเนื่องจากต้นทุนสูงเช่นน้ำมันพืชปาล์ม ร้านค้าหลายร้านในตลาดบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาสินค้าของแพงขึ้นยอดขายก็เงียบแต่ไม่สามารถที่จะปรับราคาขึ้นสูงได้มากนักเนื่องจากต้องช่วยเหลือประชาชนที่เป็น ผู้ซื้อด้วย ส่วนยอดขายถือว่าขายได้เรื่อยๆ ไม่ได้มากมายนักเหมือนกับช่วงก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดีประชาชนมีรายได้น้อยทำให้การซื้อขายหากเทียบแล้วกลับในช่วงปีก่อนถือว่าไม่มากนัก
นอกจากนี้ร้านค้าหลายร้านในตลาดยังมองว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นต้นทุนหลักของต้นทุนสินค้าอาจจะทำให้ราคาสินค้านั้นปรับเพิ่มขึ้นไปอีกบวกกับผู้ผลิตแบกรับต้นทุนไม่ไหวจำเป็นต้องขอขึ้นราคาสินค้าซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกนั้นขยับตามไปด้วยและการขยับราคาขึ้นของสินค้าจากต้นทางสู่ราคาขายปลีกผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือผู้ซื้ออย่างประชาชนทั่วไป
ขณะที่ร้านค้าหลายร้านในตลาดบางร้านเข้าร่วมโครงการบางร้านไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากกังวลเรื่องของภาษีและบางร้านเป็นคนแก่ที่ขายเรื่องเทคโนโลยีและการใช้ระบบการจ่ายมองว่าเกิดความยุ่งยากจึงตัดปัญหาด้วยการไม่รับคนละครึ่งแม้สถานการณ์ราคาสินค้าอย่างเช่นเนื้อหมูจะคลี่คลายปรับราคาลดลงราคาผักที่ตลาดยิ่งเจริญยังทรงตัวแต่หากเทียบกับค่าครองชีพของประชาชนที่สูงหนี้ครัวเรือนที่มีอยู่ทำให้มองว่าราคาสินค้านั้นอย่างแพง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
