Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ศก.ไทยย้ำจุดยืนหนุนฝ่ายค้าน อนุทิน โต้ดีล ธรรมนัส

พรรคเศรษฐกิจไทย ร่วมประชุมสภาฯ นัดแรก ประเดิมแหกมติวิปรัฐบาล! อนุทินยันยังไม่ร่วมงานกับธรรมนัส

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (9 ก.พ.) ในการพิจารณาร่างแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ที่เสนอโดย ส.ส.พรรคก้าวไกล เพื่อปลดล็อคการผลิตสุราให้กับผู้ผลิตรายย่อย และสร้างโอกาสในการแข่งขัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการขนาดเล็กนั้น

 

ที่ประชุมวิปรัฐบาล มีมติให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล มีมติเห็นชอบในการส่งให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาก่อนส่งกลับมายังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติว่าจะรับหลักการหรือไม่ เนื่องจาก เป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน แต่ฝ่ายค้าน มีมติไม่เห็นชอบ ในการส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา

 

ผลการประชุมมีมติเสียงข้างมาก 207 ต่อ 196 เห็นชอบให้ส่งร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ที่เสนอโดย ส.ส.พรรคก้าวไกล ไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณารับหลักการในวาระแรก

 

ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ในกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงมติสวนทางกับวิปรัฐบาล โดยที่ร้อยเอกธรรมนัส ไม่ได้ร่วมลงมติด้วยในครั้งนี้ สำหรับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (9 ก.พ.) ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นครั้งแรก หลังพรรคพลังประชารัฐ มีมติขับออกจากการเป็นสมาชิก

 

 

 

พรรคเล็กตั้งกลุ่ม 16 ประกาศไม่สนมติวิป ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ประเดิมค้านขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว ยันไม่ใช้กลุ่มเดียวกับเศรษฐกิจไทย

 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการจัดตั้งกลุ่ม 16 คน ว่า เป็นการรวมตัวของกลุ่มพรรคเล็กเดิมและฝ่ายค้านบางส่วน ซึ่งแนวทางการทำงานคล้ายกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และกลุ่มได้ตั้งตนเป็นผู้ประสานงาน ตั้งให้นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เป็นหัวหน้ากลุ่ม และมีนายคฑาเทพเตชะเดชเรืองกุล ส.ส. พรรคเพื่อชาติไทย เป็นเลขาธิการกลุ่ม และมีนายดำรงค์ พิเดช พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เป็นประธานที่ปรึกษา

 

ทั้งนี้ จากการหารือทางกลุ่มมีมติว่าเรื่องใดก็ตามของรัฐบาลที่จะมีผลกระทบต่อประชาชนและไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทางกลุ่มจะมีมติโหวตในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นหลักไม่สนมติวิปรัฐบาล ซึ่งเรื่องแรกที่มีมติไป คือ การขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ยืนยันว่า ไม่ควรเร่งต่อสัมปทานในรัฐบาลชุดนี้

 

แต่หากนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรียังคงลงมติเดินหน้าให้ต่อสัมปทาน กลุ่ม 16 คน จะให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นร้องดำเนินคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และยื่นต่อป.ป.ช.ด้วย พร้อมยืนยันว่า กลุ่ม 16 คน เป็นคนละกลุ่มกับพรรคเศรษฐกิจไทย แต่บางเรื่องก็อาจจะมีแนวทางที่ตรงกัน

 

ขณะเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยด้วยว่า การที่ตั้งกลุ่ม 16 คนขึ้นมา ไม่ได้ต้องการเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด แต่อาจตั้งมาเพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออกมากกว่า พร้อมระบุกลุ่ม 16 คน ที่มีการรวมกัน อาจจะมีแนวทางการเมืองในอนาคตร่วมกันหรือตั้งทัพสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้าเป็นพรรคเดียวกัน หรือหากเห็นว่าแนวทางของพรรคเศรษฐกิจไทย ก็อาจจะไปรวมกันเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต แต่ต้องรอยุบสภาก่อนเพราะมองว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่นาน

 

ส่วนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้านั้น จะเร่งดำเนินการยื่นให้เสร็จภายในเดือนเมษายน เพื่อป้องกันนายกรัฐมนตรียุบสภา เพราะเราต้องการให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งกลางสภา แต่เชื่อว่าคนอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยอมเข้าสู่สนามรบ จะไม่ทิ้งไพ่หรือลาออกก่อนแน่นอน

 

 

 

“อนุทิน”ย้ำภูมิใจไทยจุดยืนชัด เคลียร์แล้ว ยันต่อไปไม่มีบอยคอตอีก ไม่อยากให้มีซ้ำรอยกล้ายาง CTX ไม่ตอบท่าทีเศรษฐกิจไทย บอกให้ไปถาม”ธรรมนัส”

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง พรรคเศรษฐกิจไทยให้ความเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ของพรรคก้าวไกล จะเป็นสัญญาณให้ยุบสภาเร็วขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ขอให้ไปถามร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส. ส. พะเยา เอง พร้อมออกตัวว่าเดินสวนกันแล้วจะไม่ให้ทักได้อย่างไร เนื่องจากเป็นเพื่อนกัน รัฐบาลส่วนรัฐบาล สภาส่วนสภา การไปของรัฐบาล มี

1 คือนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง

2 คือนายกรัฐมนตรีลาออก

3 นายกรัฐมนตรี ยุบสภา

4 กฎหมายการเงินของรัฐบาลไม่ผ่าน ซึ่งก็มีข้อกำหนดอยู่ชัดเจน

 

เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคเศรษฐกิจไทย ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นก็เสี่ยงที่รัฐบาลนั้นจะตายคาสภาฯ และอาจจะเกิดการยุบสภาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ขอให้ไปถามคนที่มีอำนาจยุบสภา เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เหมือนกับการสงวนสิทธิ์ เป็นเรื่องการทำงานของแต่ละคน เราไม่ใช่นักบู๊ ตีรันฟันแทง เราใช้สติทำงานอย่างไรก็ตาม นายอนุทินกล่าวว่ารัฐบาลเป็นของประชาชนไม่มีศัตรู และมีศัตรูไม่ได้ และจากนี้ไปพรรคภูมิใจไทยได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว เป็นลายลักษณ์อักษร และ เคลียร์หมดแล้ว ซึ่งจากนี้ไปจะไม่มีการไม่เข้าร่วมประชุมครม. และพร้อมจะรับฟัง ความเห็นของ นายศักดิ์สยาม ที่จะซักถาม หรือโต้แย้ง และถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่าต้องดำเนินการต่อไป ก็สามารถสั่งการได้ ในการจะลงมติ แสดงให้เห็นว่าเราหลบเราหมอบเเล้ว ถึงเวลาโหวตหากไม่มีการแก้ไข ก็โหวตโน แต่ถ้าแก้ไขแล้ว ไม่มีอะไรกังวลว่าจะไปที่บ้านหลังพ้นตำแหน่ง และถูกต้องตามกระบวนการ ถูกต้องทุกอย่าง และประชาชนได้รับประโยชน์ มีแต่จะเร่งให้รีบโอน

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายอนุทิน นายกรัฐมนตรีจะเลือกใคร “ไม่ต้องถาม ว่า นายกรัฐมนตรี จะเลือกใคร ท่านเป็นพี่น้องกัน รู้สี่รู้แปด ภาษาบรรพบุรุษตนที่มาจากยุโรป เขาเรียกอู่ตั่วอู่โส่ย (เป็นภาษาจีนแปลว่า เราต้องรู้จักว่าลำดับใครโตกว่าเรา) พร้อมย้ำว่ารู้สี่รู้แปด รู้ใหญ่รู้เล็ก ไม่ได้เทียบกันตรงนั้นคนละเรื่องกัน ไม่ใช่เลย ถามออกทะเลแล้วไม่ใช่ ไม่ต้องการให้เลือก ให้เลือกประชาชน”พร้อมกันนี้นายอนุทิน ยังกล่าวถึง ในอดีตที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเคยมีมติเห็นชอบ คดีกล้ายาง คดี CTX ที่ทุกฝ่ายเห็นว่าถูกกฎหมาย ว่าตนไม่อยากซ้ำรอย กับคดีดังกล่าว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube