น้ำมันแพง วินบ่นรอรัฐช่วย
น้ำมันแพง วินบ่นรอรัฐช่วย เงินเฟ้อของแพง แต่ค่าแรงไม่ขยับ
หากพูดถึงอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นประชาชนทั่วไปคงไม่รู้จักกันกว้างขวาง แต่ถ้าใช้คำแบบบ้านบ้านว่าของแพงขึ้น มากกว่าค่าแรงที่ได้รับในปัจจุบันคงเข้าใจ โดยปัจจัยหลักของราคาสินค้าที่ปรับขึ้นมาจากต้นทุนราคาพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันที่ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาแบบก้าวกระโดดหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในหลายหลายประเทศเริ่มคลี่คลายจนความต้องการในการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสินค้าตักปรับตัวตามต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งหนึ่งในเสียงสะท้อนจากผู้ ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือที่เรียกกันในนามวินมอไซค์ ได้รับผลกระทบไม่แพ้กันและยังไม่มีการเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาโดยภาครัฐผ่านมาตรการต่างๆ
ทั้งนี้จากการสอบถามวินรถจักรยานยนต์รับจ้างย่านถนนบรมราชชนนี พบว่าส่วนใหญ่ยังคงราคาอัตราค่าโดยสารตามเดิมในราคาน้ำมันเบนซินจะปรับสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำหรับผู้ประกอบอาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ แต่ล่าสุดยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร เนื่องจากกังวลว่าผู้โดยสารอาจจะไม่ใช้บริการหากอัตราค่าโดยสารสูงจนเกินไป โดยปัจจุบันจะขับรถรับจ้างแค่ช่วงเช้าและช่วงเย็นที่มีการเข้าออกของประชาชน ช่วงเวลาทำงานในชั่วโมงเร่งด่วน ส่วนช่วงกลางวันอาศัยขับรถผ่านแอพเดลิเวอรี่แทน เพื่อหารายได้เพิ่มอีกช่องทาง เนื่องจากยอมรับว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นถือเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้อยากฝากไปยังรัฐบาลให้ดูแลราคาน้ำมัน เนื่องจากบอกว่าหากปรับตัวสูงขึ้นมากกว่านี้คงจะต้องปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ล่าสุดทางกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน ได้หารือร่วมกันเพื่อวางแนวทางช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพจักรยานยนต์รับจ้างที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล และเตรียมที่จะมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทางกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณา ขยายมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนหลังได้รับผลกระทบจากราคาสินค้า และราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น โดยได้หารือร่วมกับกระทรวงพลังงานถึงมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการลดค่าครองชีพในหมวดอาหารและหมวดพลังงาน รวมไปถึงมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะพิจารณาควบคู่กับขีดความสามารถของกองทุนน้ำมันที่ได้ขยายเพดานเงินกู้ไปแล้วเป็นวงเงิน 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่ากระทรวงพลังงานจะนำมาตรการดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า
จากนี้คงต้องมาติดตามว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จะมีของขวัญอะไรออกมาให้ประชาชนเพื่อลดภาระด้านราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและจะถูกใจเหมือนของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาหรือไม่ คงต้องมาติดตามกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews