นายกฯ ไม่กังวลศึกอภิปราย พร้อมตอบทุกเรื่อง เมินโพย “อนุทิน” สนแค่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประเทศชาติ – ประชาชน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตอบคำถามแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถึงกรณีการอภิปรายทั่วไปในวันที่17-18กุมภาพันธ์ได้มีการฝากพรรคร่วมอย่างไรและกังวลหรือไม่ว่าจะมีการเล่นเกมนับองค์ประชุมเพื่อหักหน้านายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯ ชี้แจงว่านายกฯ และรัฐมนตรีพร้อมที่จะชี้แจงในทุกเรื่อง ไม่ได้กังวลเรื่องใดเป็นพิเศษ การพูดและการแสดงใดๆ ก็ตามในสภาฯ เป็นเรื่องของสังคม ฝ่ายใดจะเป็นคนเสนอนับองค์ประชุมก็ให้คอยดู
ส่วนในสมัยประชุมหน้าประมาณเดือนพฤษภาคม ที่ฝ่ายค้านจะยื่นมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และถอดถอนอีกรอบรัฐบาลเตรียมเรื่องเสียงอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า กระแสข่าว 250 เสียงหรือ 260 เสียงในโพยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ช่วยได้จริงหรือไม่ นายกฯ ชี้แจงว่า ตนสนใจแต่เพียงว่าเราจะทำวันนี้ วันพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นอย่างไร แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประเทศชาติประชาชนในช่วงนี้อย่างไร เรื่องคะแนนเสียงเรื่องพรรคการเมืองให้เป็นเรื่องของสภาฯ และส.ส. จะมองว่าอะไรสำคัญกว่ากันประเทศชาติประชาชนกับการเอาชนะกันทางการเมืองในทุกเวที
มีการวิเคราะห์ถามว่าในโพย 260เสียงน่าจะสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองมากกว่านายกฯชี้แจงว่าเป็นเรื่องของการวิเคราะห์สำคัญอยู่ที่ประชาชนการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือมีอุบัติเหตุทางการเมือง ทำให้มีอะไรเกิดขึ้น ใครทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้ประชาชนเดือดร้อนประชาชนจะมีความเชื่อมั่นหรือไม่.
ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยเนื้อหอม ว่าไม่รู้จะตอบอย่างไร และไม่น่าจะมีปัญหากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะคนที่เข้าหาพรรคภูมิใจไทยต้องแสดงความจำนง หากเป็นคนที่ทุ่มเทเสียสละ และไม่มีประวัติด่างพร้อยก็รับทุกคนอยู่แล้ว
ซึ่งขณะนี้ก็มีสมาชิกอยู่แล้วกว่าแสนคน พร้อมระบุว่า นายเอกราชไม่มีคดีติดตัว เพราะหากมีคดีคงเป็นส.ส.พรรคไหนก็ไม่ได้ตั้งแต่แรก อีกทั้งนายเอกราชมีความสนิทสนมกับสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีที่นายเอกราช เป็นเหมือนมือขวาของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา นายอนุทิน ระบุว่า เพื่อนกัน พรรคพวกเดียวกันทั้งนั้น หากอยู่พรรคเดียวกันแต่อยู่คนละพวกกับอยู่คนละพรรคแต่พวกเดียวกันก็ถือว่าดีทั้งคู่
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เคยตระเวนดูด ส.ส.”หนูเปล่านะ เขามาเอง” แต่เมื่อถามว่าจะมีมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ซึ่งจำนวน ส.ส.หรือสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้มีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรี ไม่เคยกดดันทางการเมือง หรือกดดันนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะโควตารัฐมนตรี ซึ่งยืนยันว่า ไม่มีคำว่ากดดันนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วส่วนเสียงส.ส.เพิ่มขึ้นแต่ตนเองก็เจียมเนื้อเจียมตัว เพราะเมื่อคนมาสมัครถึงชานเรือนก็ต้องต้อนรับ และสัญญาว่าจะทำความดีให้กับบ้านเมืองและประชาชน ถ้าใครผิดสัญญาก็ไม่เอาไปด้วย
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณการปรับครม.แล้วหรือยัง สืบเนื่องจากการกดดันของส.ส.กลุ่ม 21 คน นายอนุทิน ระบุว่า ถึงจะปรับก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีและมีตำแหน่งว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง ซึ่งก็ไม่ใช่โควตาของภูมิใจไทย ถึงแม้จะปรับก็จะไม่กระทบ เป็นมารยาททางการเมืองอยู่แล้ว แม้จะมีส.ส.กี่คนก็ตามแต่เราเริ่มมาเท่านี้ และช่วงนี้เป็นปีสุดท้ายของการทำงานของรัฐบาล ก็ต้องสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน ให้บ้านเมืองได้ประโยชน์มากที่สุด โควิดและความกังวลต่างๆเริ่มคลี่คลายขึ้น เหลือราคาน้ำมันที่ก็พยายามหาวิธีที่จะแก้ปัญหา ซึ่งทุกฝ่ายก็คิดอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนั้นนายอนุทินยังยืนยันความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นแฟ้นไม่มีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการทำงาน แต่เป็นความเห็นต่างของหน่วยงาน ไม่ได้เป็นความขัดแย้งด้านนโยบาย
ส่วนที่บางฝ่ายมองว่าเรื่องการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นปัญหาแตกหักระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ยังห่างไกลจากจุดนั้นอีกมากเพราะเรื่องนี้เป็นเพียงความเห็นในเรื่องกฎหมายที่แตกต่างกัน และถือว่าเป็นสิทธิ์ที่เห็นต่างได้ เพราะอีกฝ่ายมองว่าหากดำเนินการไปแล้วจะเสี่ยงผิดกฎหมายเสี่ยงคดีความ เสี่ยงคุกตารางและเสียค่าเสียหาย เป็นเรื่องคดีอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง จำเป็นจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันและยอมให้แต่ละฝ่ายใช้ดุลยพินิจและมติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามนั้น แต่จะบังคับให้เห็นด้วยหรือต้องรับโทษเท่ากันทั้งหมด ตรงนี้ต้องไปพิจารณากันเอง
ทางด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้พรรคร่วมรัฐบาลนั้นช่วยกันในการรับมือการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะถูกอภิปรายในประเด็นปัญหาราคาสินค้าแพง ว่ารัฐมนตรีทุกคนทราบหน้าที่ดี ญัตติตามมาตรา 152 ฝ่ายค้านสามารถอภิปราย ตรวจสอบ และแสดงความคิดเห็น และเสนอแนะความเห็นของฝ่ายค้านให้กับที่รัฐบาลได้ และประเด็นไหนเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีท่านใด รัฐมนตรีถ้านั้นก็มีหน้าที่ที่จะต้องตอบชี้แจง และทำความเข้าใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงพูดในภาพรวม
ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมที่จะตอบหากมีคำถามอะไร ส่วนเรื่องปัญหาราคาสินค้าขณะนี้ ในระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการเข้าไปกำกับควบคุมและติดตามดำเนินคดี ซึ่งทำให้สถานการณ์นั้นคลี่คลายขึ้น ส่วนราคาสินค้าอื่นก็สามารถกำกับได้เกือบทั้งหมดเพราะไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นราคาสินค้าแต่ต้องขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นการค้ากำไรเกินควร ผิดปกติ ให้แจ้งสายด่วน 1569 เพราะฉะนั้นเรื่องการชี้แจงในสภา ตนไม่เป็นห่วงอะไรและในส่วนของตนก็พร้อมที่จะอธิบาย
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างออกมายืนยันว่าเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็จะส่งให้ถึงฝั่ง แล้วในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นอย่างไรนั้น นายจุรินทร์ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ตนย้ำอยู่บ่อยๆ และทราบหน้าที่ดี พรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในระบบรัฐสภา มีหน้าที่ต้องสนับสนุนรัฐบาลเพราะรัฐบาลในระบบนี้ ต้องอาศัยเสียงข้างมาก ในสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องสนับสนุนรัฐบาล ยกเว้นจะเป็นอย่างอื่นอันนี้เป็นหน้าที่ ขออย่ากังวลกับพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ในประเด็นปัญหาการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะเป็นปัญหาในการอภิปรายครั้งนี้ นายจุรินทร์ระบุว่าตนไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมา อภิปรายหรือสอบถามหรือไม่ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ต้องชี้แจง เมื่อเขาสอบถามหน่วยงานไหนหน่วยงานนั้นก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงและทำความเข้าใจ
ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวกรณีนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับ นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น พปชร. ไปสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า “ก็ดี ไม่ว่ากัน เขาอยากจะอยู่ที่ไหนก็ไปอยู่ ทำงานให้ประชาชน อยู่ที่ไหนก็ได้ เขาไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีอะไร”
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวด้วยว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เขาสนับสนุนรัฐบาล ส่วนที่โหวตสวนมีแค่เรื่องเดียว เรื่องกฎหมายสุรา ส่วนที่มองว่า ไม่สามารถคุม ร.อ.ธรรมนัส ได้นั้น
“จะคุมได้ยังไง เพราะเขาอยู่คนละพรรค แต่เมื่อถูกถามว่า ภาพรวมของรัฐบาลไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ก็ตอบว่า บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า ไม่มีอะไร ก็อยู่ยาว ก็อยู่จนกระทั่งล้ม”
สำหรับ การอภิปรายทั่วไป ไม่ลงมติ ม.152 ช่วงวันที่ 17-18ก.พ.นี้ ก็เหมือนกระทู้สด
“ถามอะไรก็ตอบไป ว่าเราทำอะไรมาบ้าง ไม่มีอะไร ส่วนหากฝ่ายค้านถ้าอภิปรายถึงงานที่ตนรับผิดชอบ ก็ดูว่ากระทรวงไหนเขาทำ ก็ให้กระทรวงนั้นชี้แจง”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews