คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และส.ก.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพรรค โดยเฉพาะพรรคใหญ่ฝั่งรัฐบาลต้องทบทวนและปรับกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อม
การเลือกสนามใหญ่ที่จะเกิดขึ้น และในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์
โดยได้กล่าวถึง การขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม. ว่าเป็นภาระต่อเนื่อง ก็ฝากช่วยกันแก้ไขให้เดินได้ และทำให้ถูกต้อง ซึ่งไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูก หลายอย่างอยู่ในอำนาจ และอยู่ในกรอบของคณะกรรมการทั้งนั้น
โดยเชื่อว่าการเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการพิจารณา เป็นระบบที่ต้องทำงานด้วยกันอยู่แล้ว ซึ่งต้องคุยกันแต่ข้อสำคัญคือยิ่งช้า ยิ่งเสียประโยชน์ ประชาชนก็เดือดร้อน ทุกอย่างมันสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ไม่ว่าใครก็ตามไม่ใช่ศัตรู
ทั้งนี้ จะพยายามทำให้มากที่สุด ตราบใดที่ยังมีเวลา ในการดูแลตรงนี้อยู่ ก็จะทำให้ดีที่สุดแล้วกันและยังไปช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง ให้สงบ ให้เรียบร้อย” ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้การแก้ความผิดหวังของพรรคพลังประชารัฐที่ได้ ส.ก. กทม.เพียง 2 เก้าอี้
จะต้องทำอย่างไร ส่วนที่มีคนไปโยงเพราะ 3 ป. ไม่เด็ดขาด และมีปัญหากัน รวมถึงนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยังแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ว่าเป็นความเห็นของนพ.วรงค์ คนเดียว ไม่เกี่ยวกับ 3 ป.
แต่เป็นเรื่องของกระแสของประชาชนและเรื่องของท้องถิ่น ซึ่งพล.อ.ประวิตร ยังให้ถามสื่อมวลชน? ถึงความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ ยังไปได้อยู่หรือไม่
ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทยน ที่ครั้งหนึ่งเคยประท้วงด้วยการบอยคอยประชุม ครม.มาแล้ว กล่าวถึงแนวทางการทำงานร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.
ในประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบ ข้อกฎหมาย เพราะตนเองยืนยันหลักการนี้ ส่วนจะมีการรื้อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ นั้น ยังไม่ทราบ กทม.ต้องไปดู เพราะกระทรวงคมนาคมบอกไปแล้วว่าใจความคืออะไร ให้ปฏิบัติถูกต้องตามมติ ครม.
ส่วนกรณี ที่นายชัชชาติ ระบุ อยากให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวโอนไปเป็นของรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่ ก็ขอให้ดูข้อกฎหมายก่อนอย่าไปพูดอะไรล่วงหน้า เพราะมีรายละเอียดมาก ส่วนที่หาเสียงไว้จะไม่ต่อสัมปทานสายสีเขียว ก็ขึ้นอยู่ที่ผลการศึกษา หลักการอยู่ที่ทำอะไรแล้วประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และสัญญา เพราะจะไปลดอะไรต่างๆ นานา ต้องไปดูด้วยว่าสัญญาสามารถทำได้หรือไม่ ต้องระวังจะเป็นค่าโง่และมองว่าทุกอย่างคงต้อง รอให้นายชัชชาติ รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน อย่าเพิ่งถามอะไรล่วงหน้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews