อีกเพียง 2 วัน สีสัน ความบันเทิง ครื้นเครง ในยามค่ำคืน ที่หลายๆคนคุ้นเคย จะกลับมาอีกครั้ง หลังจาก โควิด 19 เล่นงานประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 จนรัฐบาลต้องประกาศใช้มาตรการที่เด็ดขาด ปิดกิจกรรม กิจการทางธุรกิจ ในยามราตรีไป กว่า 2 ปี เพื่อให้การควบคุมโรคได้ผลมากที่สุด จนผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ออกมาเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง
เพราะมาตรการดังกล่าวนำมาซึ่งการสูญเสียรายได้ สูญเสียโอกาส ของคนนับล้าน แต่ ณ ปัจจุบัน ที่สถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น กระทรวงสาธาณณสุขเตรียมผลักดันให้ โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จึงถือเป็นโอกาสดีที่ธุรกิจในยามค่ำคืน จะได้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง หลังจากภาคการท่องเที่ยว ได้รับการผ่อนปรนมาก่อนหน้านี้แล้ว และเริ่มฟื้นคืนสภาพคล่องมาได้บ้างเล็กน้อย แต่การเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ 1 มิ.ย.ในครั้งนี้ เป็นเพียงการนำร่อง สำหรับสถานประกอบการ ที่อยู่ในพื้นที่ สีเขียว 14 จังหวัด และพื้นที่ สีฟ้า 17 จังหวัด เท่านั้น โดยเปิดได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. ต้องตรวจ ATK ในกลุ่มผู้ให้บริการ และประชาชนที่ใช้บริการต้องฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนด หากบริหารจัดการได้ดี จังหวัดอื่นๆ ก็มีโอกาสได้รับการผ่อนปรนในรอบต่อๆไป
• พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท, ตราด, นครพนม, น่าน, บุรีรัมย์, พิจิตร, อ่างทอง, มหาสารคาม, ยโสธร, ลำปาง, สุราษฎร์ธานี, สุรินทร์, อุดรธานี, และ อำนาจเจริญ
• พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 17 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่, กรุงเทพมหานคร, กาญจนบุรี,จันทบุรี, ชลบุรี, เชียงราย, เชียงใหม่, นครราชสีมา, นนทบุรี, นราธิวาส, ปทุมธานี, ประจวบคีรีขันธ์, พังงา, เพชรบุรี, ภูเก็ต, ระยอง, และ สงขลา
จะเห็นได้ว่ายังมีอีกถึง 46 จังหวัด ที่ยังไม่สามารถเปิดได้ ในครั้งนี้ ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่างๆ คงต้องเอาใจช่วย ให้ 31 จังหวัดนำร่อง สามารถบริหารจัดการได้อย่างหมดจด เพื่อที่จังหวัดอื่นๆ ที่เหลือ จะได้รับโอกาสบ้าง ในการประชุม ศบค.ครั้งต่อไป ซึ่งมาตรการสำคัญ ที่ ผู้ประกอบการจะต้องเข้มงวด ต้องลงทะเบียนขออนุญาตก่อนเปิดดำเนินการ ต้องจัดให้มีผู้รับผิดชอบควบคุมกำกับการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมาตรการทางกฎหมายโดยเคร่งครัด ส่วนผู้ใช้บริการ ก็ต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบถ้วน
รวมถึงเข็มกระตุ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การเปิดผับ บาร์ ในครั้งนี้ 3 ส่วนสำคัญ คือ ผู้ประกอบการ นักเที่ยว และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดที่สุด เพื่อให้สามารถฟื้นคืนธุรกิจภาคกลางคืน สถานบันเทิง กลับมาได้อย่างสมบูรณ์ ให้เหมือนกับช่วงก่อนปี 2563 สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชน ที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ในยุคข้าวยากหมากแพงนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnew