แม่แตงโมแจงตร.ให้บังแจ็คกู้มือถือไม่โกรธแฉคลิป-เงิน 3 แสนของพยาน
โดยวันนี้ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นั่งรถยนต์เบนซ์พร้อมกับทีมการ์ดที่ดูแลเข้ามาที่ กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.โดยมี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รออยู่ก่อนแล้ว เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สอท.กรณีส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมไปให้บังแจ็คที่ สหรัฐอเมริกา โดยกล่าวสั้นๆกับสื่อมวลชนว่าไม่ได้มีความกังวลและพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจและส่วนตัวยังเชื่อใจบังแจ็ค 100% จากนั้น นายอัจฉริยะได้เดินคล้องแขนแม่แตงโมเดินขึ้นบันไดเลื่อนที่เสียไปยังชั้น 2 เพื่อเข้าให้ปากคำโดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.สอบปากคำด้วยตนเอง เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง
โดย นางภนิดา เปิดเผยหลังเข้าให้ปากคำยืนยันว่าต้องการให้บังแจ็คช่วยกู้ข้อมูลและไม่ทราบว่าในประเทศไทย มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถกู้โทรศัพท์มือถือได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือแต่ไม่ได้ ขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหนึ่ง แนะนำให้รับโทรศัพท์ของบังแจ็ค ที่ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อมาตลอด จนแม่ตัดสินใจพูดคุยกับ บังแจ็ค ซึ่ง บังแจ็คอ้างว่าทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทุกอย่าง โดยมีผู้มาสารภาพกับบังแจ็ค ว่ารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมด จึงทำให้แม่ตัดสินใจส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค
ส่วนการที่บังแจ็คอ้างว่าได้โอนจำนวน 300,000 บาท ให้นั้น ไม่ได้เป็นการจ่ายค่าโทรศัพท์ให้ตนเอง แต่เป็นการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านเวสเทิร์นยูเนี่ยนให้กับพยานคนหนึ่งในคดี ที่ได้มาเล่าความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบและยังยอมรับว่า บังแจ็ค บอกว่า มีการสำรองข้อมูลโทรศัพท์ของแตงโมไว้แล้วและยืนยันว่าจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนกลับมาให้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการโพสต์ภาพและคลิปต่างๆของแตงโมลงในโซเชียลตนเองไม่ได้โกรธบังแจ็ค เพราะมองว่าเป็นผลดีที่จะทำให้คนบนเรือเปิดปากพูดความจริง อีกทั้งในในโทรศัพท์มือถือแตงโมไม่มีภาพโป๊ หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสม จึงไม่กังวลในประเด็นนี้
ด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยืนยันว่า ได้หารือกับนางภนิดาแล้ว เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พร้อมที่จะเปิดข้อมูลหลักฐานสำคัญทุกอย่าง และขณะนี้ ทราบว่านาฬิกาข้อมือกับสร้อยคอของแตงโม หายไป และอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลสิ่งของที่สูญหายนี้มากกว่าที่จะให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่บังแจ็คกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะไปร้องเรียน แพทยสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรม แพทย์คนหนึ่งที่ให้คำแนะนำกับพนักงานสอบสวนคดีนี้ด้วย
ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เปิดเผยว่า สำหรับทั้ง 30 ประเด็นที่ได้สอบปากคำนั้น ก็ได้ตอบเคลียร์ชัดเจนในทุกประเด็น ซึ่งนางภนิดาก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังในการติดต่อกับบังแจ็คตั้งแต่แรก ส่วนความจำเป็นที่ต้องส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คนั้นก็เป็นเพราะอยากจะรู้ความจริง ซึ่งขอเปิดเผยเท่านี้เพราะอยู่ในสำนวน โดยภายในสัปดาห์นี้บังแจ็คจะส่งโทรศัพท์กลับคืนมา ซึ่งบังแจ็คต้องส่งกลับมาเพราะเป็นทรัพย์สินของทางคุณแม่
ส่วนข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์จะอยู่ครบหรือถูกเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้นต้องขอดูตัวเครื่องก่อน เพราะก็ยังไม่มั่นใจในตัวของบังแจ็ค ซึ่งควรต้องส่งโทรศัพท์กลับมา ส่วนจะมีการซื้อขายโทรศัพท์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีการซื้อขายก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดี พร้อมย้ำว่า ตำรวจไซเบอร์ สอบเฉพาะในประเด็นที่มีการนำภาพในโทรศัพท์มือถือของแตงโม มาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น ส่วนสำนวนคดีหลักเป็นอำนาจการสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นคนละคดีกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews