ภายหลังช่วงกลางดึกของวันที่ 9 มิ.ย.เจ้าหน้าที่พบศพครูหนิง ครู กศน. อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดชุมพร ที่ญาติประกาศตามหาหลังหายตัวไปเมือวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา รวม 15 วันที่ได้หายตัวไป โดยพบเป็นศพถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ซึ่งศพถูกฆ่าถ่วงน้ำด้วยก้อนอิฐอยู่ในบ่อน้ำ บ้านของผู้ต้องหา คือ จ.ส.อ.สุรินทร์ อายุ 38 ปี เป็นทหารค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ดอนยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรี
สำหรับที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำในสวนกล้วย โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี ได้ช่วยกันนำศพขึ้นมาจากบ่อน้ำ ศพมีสภาพเริ่มเน่าเปื่อย มีก้อนอิฐ 2 ก้อน แหนบรถยนต์ 1 เส้น เหล็กรางรถไฟยาวประมาณ 1 เมตร ผูกเชือกมัดติดกับขาทั้งสองข้างและเอว และมือทั้งสองข้างถูกมัดในลักษณะไขว้หลังถ่วงลงในน้ำ โดยสภาพศพมีร่องรอยถูกของมีคมกรีดตามลำตัว ท้อง หลัง และก้นกบ โดยผู้ต้องหาบอกว่าที่กรีดศพ เพื่อป้องกันไม่ให้ศพอืดลอยขึ้นเหนือน้ำ และตัดต้นกล้วยประมาณ 20 ต้นทับบนผิวน้ำอีกทีบริเวณที่ถ่วงศพไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นศพเมื่อศพลอยขึ้นมา
ด้านชาวบ้านในพื้นที่เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่มีจุดผิดสังเกตอะไร แต่ก็มีชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาได้กลิ่นเหม็น แต่คิดเพียงแค่ว่าเป็นกลิ่นเน่าของซากสัตว์ที่เน่าตาย แต่สุดท้ายเพิ่งมาทราบว่าเป็นศพคนตอนที่ตำรวจมาจุดที่พบศพแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาในการก่อเหตุครั้งนี้มาทำการสืบสวน โดยรับว่ามีการทะเลาะกันจริงในเรื่องของการหึงหวง แล้วจึงตามหารถที่ครูหนิงใช้ พบว่ามีการนำไปซุกซ่อนอยู่ในที่แห่งหนึ่ง จึงได้นำกำลังเจ้าตรวจค้นที่บ้านพักที่ได้รับเบาะแส และเจอรถครูหนิงอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวจริง
จากการสอบถามเจ้าของบ้านทราบว่าผู้ต้องหาได้นำรถไปจำนำไว้ ซึ่งขัดต่อการให้การของผู้ต้องหาในครั้งแรก ที่ให้ข้อมูลกับตำรวจเอาไว้ ทางตำรวจจึงได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นทหาร และได้ทำการสอบสวนจนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทะเลาะกันและเกิดบันดาลโทสะใช้มือบีบคอครูหนิงจนเสียชีวิตบนรถ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 พ.ค. แล้วไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนำร่างไปทิ้งในพื้นที่ที่พบศพ
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา / อำพรางซ่อนเร้นศพ / และข้อหาลักทรัพย์รับของโจร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันนี้ยังไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ตำรวจพาผู้ต้องหาไปหาวัตถุพยานก่อน เช่น โทรศัพท์ และมีดที่ใช้ก่อเหตุ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเจอหรือไม่
ขณะที่ครอบครัวของครูหนิงได้เดินทางมาจากจังหวัดชุมพร มาที่ สภ.แก่งกระจาน เพื่อดำเนินการเอกสาร คุณป้าสุรีรัตน์ บำรุงจิต คุณป้าของครูหนิง เล่าว่า ตอนแรกไม่มีใครสงสัยผู้ต้องหานายทหารคนดังกล่าวเลย ญาติๆรู้จักเพียงแต่ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน รู้ว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นแค่เพื่อน ระหว่างที่ครูหนิงหายตัวไป ผู้ต้องหามีการส่งข้อความจากเครื่องของครูหนิงมาด้วย ในลักษณะที่ว่า “ไม่ต้องห่วงนะ สบายดี” แต่มองว่าไม่ใช่ลักษณะการใช้ภาษาของหลานตน มองว่าส่งมาเพื่อให้ตายใจ ต่อมาครั้งที่ 2 มีข้อความแจ้งว่าสามารถติดต่อได้แล้ว แต่เมื่อติดต่อกลับไปไม่สามารถติดต่อได้
คุณป้าสุรีรัตน์ บอกว่า ตอนที่ครูหนิงหายไป ตอนแรกมีความหวัง เพราะรู้ว่าหลานของตนนั้นเก่ง แกร่งและอดทน ไม่น่าจะมีใครมาทำร้ายได้ เพราะเป็นคนดี มีคนรักเยอะแต่พอผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ทางครอบครัวก็เริ่มคุยกันว่า “เป็นไงเป็นกัน แต่ขอให้ได้ร่างลูกเรากลับมาไม่ว่าสภาพไหน” ขณะเดียวกันยังได้พึ่งในเรื่องของไสยศาสตร์ด้วย แต่พอเห็นสภาพศพแล้วครอบครัวช็อกและใจสลาย ไม่คิดว่าจะทำกันได้โหดร้ายทารุณขนาดนี้
เมื่อถามว่าถ้าหากเขามาขออโหสิกรรม ในฐานะคุณป้ามองว่าอย่างไร คุณป้าสุรีรัตน์ มีหน่วยงานด้านช่วยเหลือเยียยยา ฝั่งของผู้ต้องหาโทรมาขอโทษ แต่ได้ตอบกลับไปว่าอย่าเพิ่งพูดเรื่องเยียวยาเลย เอาเรื่องคดีก่อนดีกว่า คุณป้าของครูหนิง ยังบอกว่า อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในสังคมต่อไป ซึ่งได้บอกกับตำรวจไปแล้วว่าจะขอสู้ให้ถึงที่สุด
ขณะเดียวกันคุณป้าสุรีรัตน์ ยังระบุด้วยว่า เป็นกังวลในเรื่องทางคดี เพราะตำรวจบอกมาว่าต้องขึ้นศาลทหาร เป็นกังวลเนื่องจากว่าผู้ต้องหาก็เป็นทหารด้วย แต่ก็หวังเพียงแค่ว่าจะได้รับความยุติธรรม อย่างเที่ยงธรรม และตรงไปตรงมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews