ก่อนหน้านี้ มีหลายคนตั้งความหวังว่า คำตัดสินของศาลในคดีของ “ปารีณา ไกรคุปต์” กรณีเข้าไปครอบครองที่ดิน สปก. โดยไม่มีคุณสมบัติ จะเป็นบรรทัดฐาน ในการเอาผิดกับบรรดานักการเมืองอีกหลายคน ที่ยังถือครองที่ดินของรัฐของอยู่ แต่การดำเนินการของ ปปช.ในการตรวจสอบก็เป็นไปอย่างช้าๆ เงียบๆ
ทั้งที่มีคนร้องเอาไว้แล้วหลายราย และ “อดีต ส.ส.เอ๋” โพสต์เฟซบุ๊คทวงถามความคืบหน้าก็ยังเงียบ จนกระทั่ง ปปช.ชี้มูลความผิด “กนกวรรณ วิลาวัลย์” ฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นความผิดทางอาญา
หรือจะพูดง่ายๆก็คือ “รุกป่า” และอีกข้อกล่าวหา “ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ข้อหาเดียวกันกับที่ “ปารีณา”ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ไปนั่นเอง ความแตกต่างมีอยู่เพียงเล็กน้อย คือที่ดิน ที่ถือครอง “ปารีณา” นั้นเป็น สปก.ส่งคืนก็จบ แต่ที่ “กนกวรรณ” โดนชี้มูลความผิด เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และจากคำตัดสินของศาลในคดี “ปารีณา” ชัดเจนว่า นักการเมือง ไม่มีสิทธิ์เข้าไปครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่มีคุณสมบัติ แม้รับมอบมาจากบิดา ก็ผิดจริยธรรมร้ายแรง ดังนั้นหากคดี “ปารีณา” คือ บรรทัดฐาน “กนกวรรณ” ก็อาจไม่ต่างกัน
13 ส.ส.ถูกร้องฝ่าฝืนจริยธรรม ถือครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ
1.โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล
2.ศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคก้าวไกล
3.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ
4.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ
5.วุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์
6.สุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลัง
7.ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
8.มานพ ศรีผึ้ง ส.ส.นครสวรรค์ พรรคภูมิใจไทย
9.สฤษดิ์ บุตรเนียร ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย
10.สนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย
11.ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย
12.สุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย
13.สงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย
นอกจาก “กนกวรรณ” ที่ ปปช.เพิ่งชี้มูลความผิด ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อขอให้พ้นจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้ว บรรดา ส.ส.ในสภา หรือแม้แต่รัฐมนตรีอีกหลายคน ก็คงหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามกันว่าใครจะเป็นรายต่อไป ที่จะโดนชี้มูลความผิดด้วยข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงอีก เพราะหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งที่ ปปช.ใช้ในการพิจารณา
ก่อนจะชี้มูลความผิด คือบัญชีทรัพย์สิน ที่แต่ละคนได้ยื่นแสดงไว้ เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง
ใครถือครองที่ดินอะไรไว้บ้าง ย่อมรู้ดีแก่ใจ ว่าเข้าข่ายหรือไม่หลังมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว 2 ราย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะกรรมการ ปปช.จะเร่งดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา กับทุกคน ทุกฝ่าย อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ทางการเมือง หรือมีคำว่า 2 มาตรฐานเกิดขึ้นอีก เพราะใกล้จะครบเทอมแล้ว ใกล้จะเลือกตั้งกันใหม่เพื่อจะได้เป็นการขีดเส้นบรรทัดฐานให้ทุกคนได้ดูเป็นตัวอย่าง และเคลียร์ตัวเองให้ใสสะอาดที่สุด ก่อนเสนอตัว เป็นตัวเลือกของประชาชนเข้าสู่สภา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews