ฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่กำลังดังในไทยและไต้หวันกรณีเกิดเหตุ คนไทยฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้องเสียชีวิต 4 ศพ
กลายเป็นข่าวฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่กำลังดังในไทยและไต้หวันกรณีเกิดเหตุ คนไทยฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้องเสียชีวิต 4 ศพ โดยศพถูกยัดทิ้งไว้ท้ายรถเอสยูวี BMW X4 บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนในไต้หวัน
โดยผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิท สันนิษฐานเกิดจากปมความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับจัดหาแรงงาน จนเป็นเหตุนําไปสู่คดีฆาตกรรม ได้หลบหนีกลับมาที่ประเทศไทย
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษกตร.) กล่าวว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุฆ่ากันโดยคนไทย 2 สัญชาติ ไทย-ไต้หวัน ก่อเหตุฆ่าคนไทย 2 สามีภรรยา
ซึ่งการข่าวพบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทย โดยตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าทางการไต้หวันได้ประสานงานมายังทางการไทยอย่างเป็นทางการแล้วหรือไม่
โดยเฉพาะตำรวจกับตำรวจหากมีประสานงานมาจะต้องพิจารณาว่ามีความร่วมมือกับไต้หวันมากน้อยเพียงใดจะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
แต่จากการตรวจสอบไป ยังพล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเอง ได้รับการประสานขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ
โดยได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจไต้หวันตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหนังสืออย่างเป็นทางการคาดว่าจะถึงในวันที่จันทร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตามตำรวจไทยและไต้หวันมีความร่วมมือที่ดีต่อกัน
หากมีการร้องขอให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุก็จะมีการพิจารณาติดตามจับกุมให้ ในหลักต่างตอบแทน เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยมีรายงานว่าตำรวจจะต้องพิจารณาว่า ผู้ก่อเหตุได้สละสัญชาติไทยไปแล้วหรือไม่เนื่องจากได้รับแจ้งข้อมูลว่าปัจจุบันผู้ก่อเหตุได้ถือสัญชาติไต้หวันด้วย แต่จากการตรวจสอบ
เบื้องต้นจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายสันติ อายุ 35 ปี เป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ หลังก่อเหตุได้ หลบหนีกลับมา ประเทศไทยเมื่อ 9 มิ.ย.2565 ตำรวจกำลังเร่งล่าตัว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews