หลังจากที่ประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ ก๊าซ LPG อีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน อัตรา 1 บาทต่อกิโลกรัม
ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้ม ในเดือนกรกฎาคม ต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็นถังละ 378 บาท และเป็น 393 บาทในเดือนสิงหาคม และในเดือนกันยายนปรับขึ้นเป็น 408 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าขนส่งในแต่ละพื้นที่ จากราคาก๊าซในปัจจุบันอยู่ที่ถัง 363 บาท โดยการปรับราคาก็เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังอุดหนุนอยู่ โดยปัจจุบันบัญชี LPG ติดลบ 36,515 ล้านบาท และยอมรับว่า หากสถานการณ์หลังจากนี้ราคาพลังงานสูงขึ้นอีกคงต้องปล่อยให้ราคาพลังงานเป็นไปตามความเป็นจริง มากขึ้น ซึ่งจะเลือกดูแลได้เฉพาะกลุ่ม เท่านั้น โดยรัฐบาลจะหาข้อสรุปมาตรการการช่วยเหลือด้านพลังงานล็อตใหม่ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 21 มิถุนายนนี้
แน่นอนว่าต้นทุนเห็นชัดเจนโดยเฉพาะกับผู้ประกอบการร้านอาหารและสตรีทฟู้ด นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ร้านค้าหลายรายเตรียมประกาศขึ้นราคาขายอาหารอีกเฉลี่ยเมนูละ 5 บาท และอาจเห็นการปรับราคาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมตามราคาก๊าซ เพราะแบกต้นทุนต่อไม่ไหว
จึงอยากเรียกร้องให้มาตรการที่รัฐบาลกำลังจะพิจารณาจะออกมาช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพด้านพลังงานนั้น เข้าไปแก้ไขที่ต้นทุนการผลิตมากกว่าการแก้ปัญหาปลายทาง
ลดรายจ่ายยังไม่ได้ การเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในยุคที่ทุกคนต้องพึ่งพาตัวเอง ล่าสุดผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้หารือกับ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จับมือร่วมกันตั้งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนและกรุงเทพมหานครขึ้น หรือ ให้เรียกว่า กรอ.กทม.เพื่อทำงานร่วมกันใกล้ชิด พัฒนาคนพัฒนางานให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการให้มากที่สุด
และในช่วงเวลาเร่งด่วน การลดภาระค่าครองชีพให้กับคนในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้ารายเล็กรายน้อยอาจทำไม่ได้ทันทีในช่วงที่ต้นทุนต่างๆ พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเพิ่มรายได้ขยายช่องทางทำมาหากิน จะทำให้ทุกคนอยู่รอด โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า ภายใน 1 เดือนนี้ จะต้องเห็นการจัดพื้นที่ถนนคนเดิน ตลาดนัด เขตละ 1 แห่ง ให้ผู้ค้าสตรีตฟู้ดมีพื้นที่ค้าขายฟรี ลดภาระค่าเช่า บรรเทาต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งล่าสุดแต่ละเขตได้ทยอยหาพื้นที่ที่เหมาะสม เพิ่มโครงการครัวกลาง เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยตามชุมชน เช่น ชุมชนคลองเตย การฟื้นโครงการฝึกอาชีพ ทำให้งานวิ่งไปหาคนไม่ใช่คนวิ่งหางาน และเพิ่มวันคาร์ฟรีเดย์ เพื่อลดการใช้พลังงานในภาพรวม
เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาทางรับมือ เวลานี้อาจไม่มีใครช่วยใครได้ การสร้างโอกาสให้ทุกคนรับมือกับปัญหาของตัวเองได้ จึงต้องเร่งทำให้เร็วที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews