ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ส่อเเววจะสนุกสุดมันส์หนักขึ้นกว่าเดิมเนื่องจาก เรือใบสีฟ้า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในฐานะแชมป์เก่าเริ่มต้นก่อนด้วยการเซ็นสัญญาคว้าตัว “เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์” หัวหอกทีมชาตินอรเวย์ ของทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเสริมศักยภาพทีม ในราคา 51 ล้านปอนด์ ขณะที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล รองเเเชมป์ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกันเมื่อลงทุนเม็ดเงินเป็นสถิติสโมสร 85 ล้านปอนด์ คว้าตัว “ดาร์วิน นูเญซ” ดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย มาจาก เบนฟิก้า เข้ามาเสริมทัพเช่นกัน
เมื่อการมาของ2เเข้งดัง ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างถกเถียงกันต่างๆนาๆ ว่า ดาร์วิน นูเญซ กับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สองกองหน้าตัวใหม่ของพวกเขาใครเก่งกว่ากัน โดยแฟนบอล แมนฯซิตี้ ส่วนใหญ่สบประมาทว่า ถึงแม้ นูเญซ จะเป็นกองหน้าฝีเท้าดี แต่ถ้าหากเทียบชั้นกับ ฮาแลนด์ แล้วยังอยู่คนละระดับ ที่สำคัญ แมนฯซิตี้ ยังได้ของดีมาร่วมทีมในแบบที่ใช้เงินน้อยกว่าอีกด้วย
ส่วนแฟนบอลหงส์แดง โต้ไปว่า ฮาแลนด์ เก่งแต่จังหวะเข้าฮอร์ส หรือ แท็ปอิน แตกต่างจาก นูเญซ ที่ครบเครื่อง ทั้งจังหวะกระชากลากเลื้อย จ่ายบอล และจบสกอร์ กรณีดังกล่าว ส่งผลให้เกิดคำถามที่น่าสนใจขึ้นมาว่าระหว่าง ฮาแลนด์ กับ นูเญซ ใครมีจุดเด่นอะไร และมีจุดไหนที่เหนือกว่ากันบ้าง โดยอิงจากผลงานในฤดูกาลล่าสุดมาเป็นข้อมูลประกอบ
ฮาแลนด์ ถล่มไป 86 ประตู จาก 89 นัด ในช่วงที่อยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพียง 2 ฤดูกาลครึ่ง โดยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาแม้ต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนเป็นระยะ แต่ ฮาเเลนด์ ก็ยังสามารถยิงประตูได้ถึง 29 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกถ้วย 30 นัด เเละ ฮาแลนด์ กับทีมชาตินอร์เวย์ ยิงไปเเล้ว 20 ประตู จากการลงเล่น 21 นัด
ส่วน นูเญซ ตั้งเเต่อยู่เบนฟิกาซัดไป 48 ประตู จากการลงเล่นรวม 85 นัด โดยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมามาซัดไปทั้งหมด 34 ประตู จาก 41 นัด เเละ นูเญซ กับทีมชาติอุรุกวัยมีโอกาศติดทีมชาติ 11 นัด และเพิ่งยิงได้เพียง 2 ประตูรายงาน จาก BBC Sport สื่อชั้นนำต่างประเทศ ได้ระบุว่า นูเญซ ยิงได้แม่นยำ 38 เปอร์เซ็นต์ และของ ฮาเเลนด์ คือ 32 เปอร์เซ็นต์
ฮาแลนด์ หาโอกาสทำประตูไปทั้งหมด 69 ครั้ง ตรงกรอบ 37 ทำให้มีค่าเฉลี่ยในการยิงตรงกรอบอยู่ที่ 54%
นูเญซ หาโอกาสทำประตูไปทั้งหมด 69 ครั้ง, ตรงกรอบ 43 ค่าเฉลี่ยในการยิงตรงกรอบสูงถึง 62%
ฮาแลนด์ ยิงประตูในลีกทุก 87 นาที ขณะที่ นูเญซ ทำประตูทุกๆ 76 นาที
สำหรับ ฮาแลนด์ มองว่าชอบใช้ความเร็วเอาชนะกองหลัง เพื่อเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย เพื่อหาทางจบสกอร์ ด้าน นูเญซ ชอบที่จะมีส่วนร่วมกับเกมรุกและชอบเลี้ยงบอลเพื่อเข้าทำประตู
ทั้งนี้ ฮาแลนด์ และ นูเญซ เคยดวลกันในสนามมาแล้วหนึ่งเกมในศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก รุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งทีมชาติอุรุกวัย ชุดยู-20 เอาชนะ นอร์เวย์ 3-1 โดยหัวหอกคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล ทำได้หนึ่งประตู ส่วนดาวยิงป้ายแดง แมนฯ ซิตี้ ยิงไม่ได้
สุดท้ายนี้ ทั้ง ฮาแลนด์ และ นูเญซ ถือว่า มีจุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนกัน แต่การใช้งานของทั้งคู่ดูแล้วจะตอบโจทย์ แมนซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ได้หรือไม่นั้นยังต้องพิสูจน์กันด้วยผลงานต่อไป นอกจากนี้ยังมีปัจจัย?อื่น ๆ ที่ทั้งคู่จะต้องเจอในฤดูกาล?ใหม่ที่จะถึงนี้อีกมากมายด้วย ฉะนั้นเเล้ว ระหว่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ ดาร์วิน นูเญซ เราต้องมารอติดตามกัน ว่าใครจะเฉิดฉาย ใครจะของจริง ใครจะสุดยอด ใครจะยิงประตูเยอะ กว่ากัน ในช่วงของการลงเล่นให้ แมนซิตี้ เเละ ลิเวอร์พูล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
