ชัชชาติ ลั่น หัวใจหลักคือกำจัดความเหลื่อมล้ำของเมือง
ความเคลื่อนไหวของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันนี้มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เพื่อหารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและเชิงบริหารจัดการหาบเร่แผงลอย
โดยนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา กล่าวว่า มีเรื่องใหญ่ๆ ที่หารือร่วมกัน คือเรื่องหาบเร่แผงลอย ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศถึงจุดที่มีความยากลำบาก เพราะฉะนั้นนโยบายการส่งเสริมการมีอาชีพ การมีงานทำที่สุจริต จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงเห็นว่าควรมีการทบทวนประกาศ กทม. แนวทางการปฏิบัติ ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนด พื้นที่ทาการค้าและการขาย หรือจาหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ที่ใช้พื้นที่สาธารณะหรือถนน และคนทำมาค้าขายว่าจะ ปรองดองผลประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร
รวมทั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ เช่น การห้ามขายของในวันจันทร์ ซึ่งตนนั้นเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ควรยกเลิกเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถทำงานได้ทุกวัน เพราะคนต้องกินต้องใช้ทุกวัน และอยากให้ กทม. มองผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเป็น ส่วนหนึ่งของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม
ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการเช่าพื้นที่อาศัยสำหรับคนยากจน คือการหาที่อยู่ราคาถูก ซึ่งขณะนี้มีอยู่จำนวนมาก ให้มีพื้นที่อยู่อาศัยร่วมกันกับทุกคนได้ นายชัชชาติ ระบุว่า เรื่องหาบเร่แผงลอยเดินหน้าเต็มที่ มี 2 ส่วนที่เป็นข้อบังคับ คือยกเลิกจุดผ่อนผันเดิม ที่ยกเลิกไปเลิกไปแล้ว 31 จุด ขณะนี้กำลังทบทวนอยู่ คาดว่าใช้เวลา 2 สัปดาห์ และอีกส่วนคือทบทวนเรื่องกฎระเบียบ
สำหรับตลาดมีอยู่ 3 ส่วน คือ ตลาดชุมชน / ตลาดออฟฟิศ และตลาดสำหรับท่องเที่ยว เช่น ข้าวสารและเยาวราช ซึ่งมองว่าแต่ละตลาดต้องมีกฎเกณฑ์แตกต่างกันไป
นายชัชชาติ ยังย้ำว่า หัวใจหลักคือการกำจัดเรื่องความเหลื่อมล้ำของเมือง กทม. ไม่ใช่มีหน้าที่แค่เก็บขยะ และลอกท่อ กทม. มีหน้าที่ดูแลเศรษฐกิจของเมืองด้วย หากเศรษฐกิจไม่ดี เมืองก็ไปรอดไม่ได้ ยิ่งนานวันขึ้น ความเหลื่อมล้ำยิ่งมากขึ้น หน้าที่ของ กทม. คือเกลี่ยความเหลื่อมล้ำ ให้โอกาสของคนตัวเล็กตัวน้อย มีโอกาสพัฒนาความมั่นคงของเศรษฐกิจมากขึ้น พร้อมยืนยันว่าทำเต็มที่ แต่คงไม่สามารถนำเงินไปทำเรื่องสวัสดิการให้ได้ แต่ช่วยได้ในแง่ของการศึกษาที่ดี / ด้านสาธารณสุขที่ดี / โอกาสในการทำมาหากิน / กฎระเบียบที่สะดวกในการทำมาหากิน / ลดส่วยและเส้นต่างๆให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน ระยะยาวสุดท้ายก็จะลดความเหลื่อมล้ำได้
ขณะเดียวกันนายชัชชาติ ยังบอกว่า เห็นต่างกับ ประธาน กมธ. เล็กน้อย คือการยกเลิกให้หยุดวันจันทร์ ซึ่งมองว่าอาจจะต้องมีการหยุดบ้าง เพราะจะเป็นการจองพื้นที่ยาวและไม่หยุดทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งตนมองว่าอย่างน้อยควรหยุด 1 วัน/สัปดาห์ หรือ 1 วัน/ 2 สัปดาห์ แต่เป็นวันใดนั้นแล้วแต่การตกลงของแต่ละพื้นที่ แต่หากหยุดแล้วต้องทำความสะอาดด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
