ซักฟอกวันแรก-นายกฯบอกอย่ายั่วโมโหปัดอยู่ต่อ 2 ปี
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลวันแรก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวด โดยนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง ยืนยันว่าทุกข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริงพร้อมระบุ อย่ายั่วโมโห ด้วยการพูดเสียดสี เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติสภา ขณะเดียวกันไม่เคยพูดว่าจะอยู่ต่ออีก 2 ปี
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 33 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาวาระด่วน คือ ญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 จำนวน 11 คน วันแรก ตามที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะจำนวน 186 คน เป็นผู้เสนอ ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน”
โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว เนื่องจากติดโควิด 19 และจะกลับมาทำหน้าที่หลังครบกำหนดการกักตัวในวันที่ 21 กรกฎาคม นี้
จากนั้น นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เปิดญัตติและข้อกล่าวหาของรัฐมนตรีทั้ง 11 คน สำหรับการอภิปรายอยู่ภายใต้กรอบข้อกล่าวหาหลัก 6 ข้อ ได้แก่
1. ความผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
2. จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกระทำผิดต่อกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม
3. ทุจริต ส่อทุจริต เอื้อประโยชน์
4. ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา
5. ละเมิดสิทธิมนุษยชน
6. ทำลายระบอบประชาธิปไตย และระบบรัฐสภา
พร้อมระบุว่า ตลอด 8 ปีที่บริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผิดพลาด ล้มเหลว ไม่สามารถแก้ป้ญหาต่างๆ ให้ประเทศได้ โดยละเว้นเพิกเฉยต่อการทุจริตในภาครัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง การใช้จ่ายงบประมาณมิได้คํานึงถึงวินัยการเงินการคลัง มุ่งแต่ก่อหนี้ เพื่อแสวงหาคะแนนนิยมทางการเมือง
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ยกหลักการ 3ดี อภิปราย ตอบโต้ฝ่ายค้านที่กล่าวหา ยืนยันไม่ใช่ข้อเท็จจริง มองว่า การใช้ถ้อยคำส่อเสียด แค่ต้องการยั่วโมโห พร้อมระบุว่า ตนไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง หรือเก่งทุกเรื่อง และไม่ได้ฉลาดที่สุดทั้งนี้ ตนทราบดีชื่นชมหลายคนที่เคยทำงานมาก่อนเช่นอดีตนายกฯ ที่ว่าดีกว่าตน แต่ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้แล้วกัน
ส่วนที่มีการพูดถึงกลุ่ม 608 ก็ขอให้ฝ่ายค้านให้เกียรติคนเหล่านี้ด้วย ซึ่งเป็นประชาชนสูงอายุที่ต้องให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ไม่เคยพูดว่า จะอยู่ต่ออีก 2 ปี เอาทุกเรื่องมาตีหมดแบบนี้ไม่ได้ขอให้ช่วยกันปฎิบัติภารกิจให้ลุล่วง
สำหรับวันแรก ฝ่ายค้านจะเริ่มต้นอภิปรายที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
อย่างไรก็ตาม ได้แบ่งสัดส่วนเวลาให้ฝ่ายค้านอภิปราย 45 ชั่วโมง หรือ วันละ 11 ชั่วโมง และ ฝ่ายรัฐบาล รัฐมนตรี และ ส.ส. ชี้แจง 19 ชั่วโมง(วันละ 2 ชม.) รวมเวลาเฉลี่ยต่อวันจะใช้ 16 ชั่วโมง และลงมติในวันที่ 23 กรกฎาคม 2565
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews