เปิดหัวหาดกันไปแล้วศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยฝ่ายค้านทั้งค่ายเพื่อไทย และก้าวไกลที่โหมโรงประดิษฐ์วาทะกรรมต่างๆ ทั้งปฏิบัติการ เด็ดหัวสอยนั่งร้าน และ บัตรเชิญเข้าร่วม “สวดอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ตอกฝาโลงระบอบประยุทธ์ ซึ่งดูคึกคักมากกว่าการอภิปรายทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นสมรภูมิรบครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป แม้ฝ่ายค้านรู้ดีว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ต้องการขึงพึดรัฐบาลฟ้องประชาชนนั้นเอง
ขณะที่วันแรก ประมุขฝ่ายบริหาร ยังคงยึดมั่นถือมั่น เชื่อมั่นตนเองในระดับสูงสุด แม้จะออกตัวว่า “ผมไม่เคยพูดว่าตัวเองดีที่สุด เก่งที่สุด ท่านตีความไปเอง หลายอย่างที่ท่านพูดไม่ใช่ข้อเท็จจริง” แต่ยังไม่ลืมแวะไปแขวะ คนไกลบ้านด้วยวลีเด็ดว่า ” ผมทราบดีว่าท่านคงชื่นชมหลายคนที่เคยทำงานมาก่อน ว่าดีกว่าผม แต่ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน” ซึ่งไม่ต้องใช้ระดับนักวิเคราะห์ ก็มองออกว่าพล.อ.ประยุทธ์หมายถึงใคร
แน่นอนว่าหลังหล่นวาจาออกมากโชเชียลคอมเมนท์สนุกสนาน เช่น แปดปี..แล้วนะท่าน…ยังกลัวเขาอยู่อีกหรือ ปืนก็มีรถถังก็มี เครื่องบินก็มี อาวุธขนาดนี้ยังกลัวเขาอยู่อีก หรือ ช่วยมูฟออนจากทักษิณสักทีเหอะ หรือ ชอบแขวะแต่คนอื่นเพราะตัวเองไม่มีวิสัยทัศน์และความสามารถเท่ากับคนอื่น หรือ เขาไม่ได้จะเอาคนเก่ากลับมา แต่เขาอยากให้ลุงออก แล้วเอาคนมีความสามารถมาแก้ปัญหา หรือไม่ได้ต้องการคนฉลาด คนเก่ง แต่ต้องการคนที่ยอมรับ และเข้าใจประชาชน
และถ้ามองอย่างเจาะลึกแล้ว การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาแขวะ นายใหญ่เช่นนี้ จิตใต้สำนึกอาจมีความหวั่นไหวบ้างเล็กๆ กับสถานะตัวเองต่อไปในภายภาคหน้า เพราะขนาดพวกเดียวกัน ร่วมรัฐบาลเดียวกัน อยู่กลุ่ม3ปอ.เหมือนเดียวกัน ยังร้าวเล็กๆ เลย ขณะที่ศัตรูการเมืองเบอร์1 อย่าง นายใหญ่ที่เดินหมากเหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนตัวละครจากน้องสาวเป็นลูกสาว ทริคเดิมๆ แต่ยังได้การยอมรับ ตอบรับ ไม่ต่างจากเมื่อครั้งในอดีต
และเหมือนทุกครั้งที่เกิดปัญหาในบ้านเมือง ทั้งเรื่องการเมือง สังคม เศรษฐกิจ สังคมไทยมักจับผู้นำปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับผู้นำในอดีต และแน่นอนว่าผู้นำในอดีตที่ถูกจับจ้องและยังคงมีบทบาทการเคลื่อนไหวในทุกบริบท ขณะนี้มีแค่ 2 ราย คนแรกคือนายหัวชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีคนที่ 20ที่ขณะนี้เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ไม่ค่อยมีประเด็นในโจมตีอะไร ส่วนอีกคนคือทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23
ทักษิณ หล่นจากอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 จะครบ 16ปี ในอีกไม่กี่เดือนแล้ว แต่ยังคงคอยหลอกหลอนผู้มีอำนาจในอีกขั้วได้อย่างสม่ำเสมอกับกลยุทธ์ โลกล้อมประเทศ ตลอดจน 8ปีที่แล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาครองบัลลังก์อำนาจ ทักษิณ ยังคงส่งเสียงข้ามประเทศโจมตีท่านผู้นำต่อเนื่อง จนช่วงโควิดระบาดทักษิณ หันไปใช้กลยุทธ์คลับเฮ้าส์โจมตีรัฐบาลในทุกมิติ ทุกเรื่องราวควบคู่ไปกับการใช้ทวิตเตอร์ นำเสนอเรื่องราวต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
ต่อมา ทักษิณ นำโปรเจกต์ แลนด์สไลด์ กลับมาปัดฝุ่น พร้อมส่งลูกสาวสุดเลิฟ เปิดหน้าเล่นการเมือง ท้าทายอำนาจรัฐ ประกอบกับ อดีตคนเพื่อไทย สร้างปรากฏการณ์ ชัชชาติฟีเวอร์ ที่ยังไม่จางหายไป บวกกับความเสื่อมในนาวารัฐลายพราง ที่มีทะเลาะขัดแย้ง แย่งชิงผลประโยชน์ และบกพร่องในการบริหารงานราชการตามที่ฝ่ายค้านปักหมุดถล่มรัฐบาลในช่วง 4 วันนี้ ทำให้ดูเหมือนว่าคะแนนนิยมของฝั่งรัฐบาลน่าจะสั่นคลอนลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตามไม่ว่า วีถีทางของทักษิณจะผิดหรือถูก แต่วันนี้สัจธรรมอย่างหนึ่งได้ถูกพิสูจน์แล้วว่า 16 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีใครเคยก้าวข้าม ทักษิณได้เลย เขายังคงเป็นปีศาจ อมตะ หลอกหลอน ศัตรูการเมือง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จวบจนถึงปัจจุบันนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
