Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ฝีดาษลิงกับศก.ไทยวิกฤตซัดซ้ำ

จากกระแสข่าวพบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงรายแรกที่ จ.ภูเก็ต เป็นชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างมากว่าจะระบาดรุนแรงเหมือนเช่นโควิด-19 หรือไม่ จะกระทบกับการดำรงชีวิตของผู้คน ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจต่างๆ มากน้องเพียงใด และจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยต้องชะงักอีกครั้งหรือไม่

 

โดยนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรม เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำหรับการพบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในประเทศไทยนั้น ก็สร้างความกังวลใจต่อภาคอุตสาหกรรมเช่นกัน

 

แต่เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลของโรคฝีดาษลิงเพียงพอ จึงไม่สามารถประเมินได้ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน หรือควรรับมืออย่างไร ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือกระทรวงสาธารณสุข ออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้ พร้อมหาแนวทางการป้องกันการระบาด เพราะหากเกิดการระบาดมากขึ้นในอนาคตจะได้รับมือได้ทันท่วงที

 

“ขณะนี้เราก็ไปโฟกัสอยู่กับโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ตอนนี้มันระบาดแรง คราวนี้ก็ฝีดาษลิงส่วนใหญ่เรายังไม่เข้าใจ ว่ามันจะระบาดยังไง มีการป้องกันยังไง แล้วความกังวล มันกังวลแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเราเจอเรื่องโควิดมา 2ปีครึ่ง เรารู้พิษสงมันดีเลย มันทำให้ปิดเมือง ท่องเที่ยวหายไป อุตสาหกรรม ซัพพลายเชนเป็นต้น แล้วเราก็มีวิกฤตที่มันซ้อนวิกฤตรออยู่แล้วข้างหน้า

 

ทั้งพลังงาน ทั้งเงินเฟ้อ บาทอ่อน ถ้ามันเจอฝีดาษลิงเข้ามา มันก็ยิ่งหนัก ผมคิดว่ากระทรวงที่เกี่ยวข้าง สาธารณสุขหรืออะไร ต้องให้ข้อมูลที่มันชัด ถ้ามันเริ่มมีเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วจะป้องกันยังไง

 

แล้วเราก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะแยะ ทั้งแอฟริกา ทั้งหลายๆ ประเทศ ตอนนี้มันเป็นวิกฤตที่มันซับซ้อนกันอยู่เต็มไปหมด แล้วเราก็อ่อนแอ อันนี้พูดกันตรงๆ นะ มันไม่ได้เหมือนเดิม กำลังมันหมดแล้ว หมายความว่าเรื่องทุนทรัพย์ เรื่องอะไรต่างๆ ถ้าตัวนี้มันแทรกซ้อนเข้ามาเพิ่มวิกฤตนี้ ผมว่าอันนี้เหนื่อย ผมคิดว่าน่าจะให้ข้อมูลที่มากกว่านี้ เพราะว่าถ้ามีความเสี่ยงมากๆ เราก็ต้องกลับไปป้องกันในการคัดกรองคนที่จะเข้ามาเป็นต้น”

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย มองว่า ปัจจัยในประเทศแม้จะมีการประกาศว่าพบการผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง 1 ราย แต่หากประเมินการระบาดฝีดาษลิงทั่วโลกพบว่าต่อวันจะพบผู้ติดเชื้อเพียง 400 – 500 ราย และไม่ได้ดูเร่งตัวแรงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนประสิทธิภาพในการระบาดไม่ได้รุนแรงมากสวนทางกับ COVID-19

 

ที่ในช่วงแรกตอนมีการระบาดพบว่าการติดเชื้อต่อวันของทั้งโลกอยู่ที่หลักร้อยในช่วงแรกแต่หลังจากผ่านไป 3 เดือนขยับไปถึงหลักหมื่นรายต่อวัน สะท้อนการระบาดที่ค่อนข้างเร็วและแรงดังนั้นการพบเจอฝีดาษลิงเชื่อว่ามีผลกระทบจำกัด จากนี้ต่อไปคงต้องจับตาดูว่าเชื้อไวรัสฝีดาษลิงจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด จะเป็นวิกฤตกระทบเศรษฐกิจไทยที่ซ้ำรอยโควิด-19 หรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube