นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจดูการเรียงกระสอบทรายเพื่อทำเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณกรมอู่ทหารเรือธนบุรี เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นการบูรณาร่วมกันระหว่างทหารจากกองทัพไทย 100 นายและเจ้าหน้าที่กทม.100นายรวม 200 นาย เรียงกระสอบทราย 2 จุด คือบริเวณกรมอู่ทหารเรือและใต้สะพานตากสิน ถนนเจริญกรุง โดยทั้ง 2 จุดใช้กระสอบทราย 8,000 -10,000 กระสอบ ระยะทางจุดละ 100-150 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วม
พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเพราะหากน้ำไหลเข้าท่วมก็จะกระทบชุมชนอีกหลายชุมชน และอนาคตจะมีการประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาทางทหารก็เข้ามาช่วยในการขุดลอกคลองลาดพร้าวและคลองต่างๆจะร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจของประชน ซึ่งยอมรับว่าทหารก็มีศักยภาพทั้งกำลังและเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องผลักดันน้ำก็จะขอมาช่วยและมีกรมอุทกศาสตร์ที่มีความรู้ให้ข้อมูลได้แจ้งเตือนและดูแลประชาชนได้ทั่วประเทศ สำหรับภาพรวมจุดที่เป็นแนวฟันหลอเขต กทม.ทั้ง 76 จุด มีการวางแนวป้องกันคืบหน้ากว่า 96% เหลืออีก 3% ที่ต้องเสริมแนวให้สูงขึ้น แต่ยอมรับว่าสถานการณ์โลกตอนนี้เรื่องน้ำน่ากลัว เพราะสภาวะโลกร้อนทำให้เกิดฝนที่ไม่คาดคิดในหลายพื้นที่ทำให้เกิดฝนตกหนัก ดังนั้นก็ต้องเตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่นๆทั้งการสร้างเขื่อนและการระบายน้ำต่างๆ
ส่วนกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา โพสต์ข้อความตำหนิว่ามัวแต่ไปเดินแบบไม่สนใจน้ำท่วมและรถติด ได้ขอบคุณนายศรีสุวรรณ เพราะหากไม่โพสต์คนคงไม่รู้ว่าเดินแบบเพื่อคนพิการ ซึ่งวันนั้นตนเองก็เดินแบบกับคนพิการทางสายตา และไม่ได้รับค่าตัว เป็นเหมือนงานการกุศล ไม่ท้อที่มีคนจับผิดแต่หากมีอะไรบกพร่องก็พร้อมปรับปรุงตัว มองว่าทุกคนมีสิทธิแนะนำหากปรับปรุงตัวได้ก็ปรับปรุง ขอบคุณสำหรับคำติชม
ขณะที่ทางกองทัพเรือ ยืนยันว่ามีการเตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่ต้นปีงบประมาณแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาทางกองทัพเรือประสบปัญหาอย่างหนักปีนี้จึงเตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ และแก้ไขจุดบกพร่อง เช่น คลองต่างๆที่เป็นจุดจัดเก็บน้ำหรือระบายน้ำยากได้ดำเนินการขุดลอกคูคลองทั้งหมด ปัจจุปันการระบายน้ำทำได้ดีอย่างมาก ขณะเดียวกันได้ดำเนินการเชิงรุก คือการส่งทหารเดินเท้าไปถึงบ้านของประชาชนที่ประสบภัยต้องขนย้ายสิ่งของต่างๆก็สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วก่อนที่น้ำจะมาถึง และจากการประเมินของทหารเรือน้ำในปีนี้คงไม่เท่าปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ประมาทจุดที่ไหนที่เป็นจุดฟันหลอน้ำจะเข้ามาได้ก็มีการวางกระสอบทราย
ซึ่งเกือบครบทุกจุดแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายนนี้นอกจากน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูงแล้วยังต้องเฝ้าระวังพายุที่จะเข้ามาอีก 2 ลูก แต่ยืนยันว่าน้ำไม่ท่วมกรุงเทพเหมือนปี 2554 เพราะปีนั้นมีหลายปัจจัย โดยเฉพาะมีพายุเข้าพร้อมกันถึง5 ลูก มีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยากว่า 3,500 ลูกบาศน์เมตรต่อวินาทีจึงขอให้ประชาชนมั่นใจและอย่าตื่นตระหนก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews