Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ลุ้นศาล”นายก8ปี” ห่วงศึกการเมืองฉุดศก.

แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย แต่ก็ได้พี่ชายที่แสนดีอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามารักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

 

 

ซึ่งก็ทำให้เกิดการทำงานที่ต่อเนื่อง แต่ก็มีกระแสข่าวออกมาในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการปรับครม. แต่ พล.อ.ประวิตร ก็ได้ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่มีการปรับครม.อย่างแน่นอน แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความสนใจในประเด็นนี้ลดลง และอาจทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไปสู่ภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐบาลและเอกชน ต่างก็เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

 

โดยนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรม เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และมีพล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี เข้ามารักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งมองว่ากรณีนี้เป็นการพักเพียงชั่วคราว

 

และไม่ส่งผลกระทบให้ธุรกิจหรือเศรษฐกิจสะดุด หรือเกิดความกังวล แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าก็คือคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญหลังจากนี้ว่าจะออกมาในทิศทางใด จะตรงใจกับคนส่วนใหญ่หรือไม่ เพราะวิกฤตการเมืองเป็นสิ่งที่แทรกเข้ามา ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบกับช่วงปลายปีรวมถึงปีหน้าด้วย

 

“เราไม่วิตก คือการเมืองมันก็เรื่องหนึ่ง แต่ช่วงนี้มันช่วงที่มันเป็นการพัก พักชั่วคราว ประเด็นตอนนี้มันแค่สั้นๆ เดือนหนึ่งหรือเดือนเศษๆ แต่ที่ถ้าเขากังวง เขากังวลในช็อตต่อไปว่าคำตัดสินของศาลรธน. ไม่ว่ามันจะเป็นซ้ายหรือขวา มันจะมีผลอย่างไรมากกว่า ถ้าคำตัดสินมันเกิดไปไม่ตรงใจของคนส่วนใหญ่ มันจะเกิดอะไรไหม เพราะตอนนี้ฝ่ายที่เขาต้องการจะก่อหวอด หรือว่าต้องการออกมาทางการเมือง มันก็เริ่มออกมามากขึ้น อันนี้เราห่วงมากกว่า แล้วก็เราก็จำภาพในอดีตได้ ตอนที่มีวิกฤตการเมืองภาคประชาชน เวลามันลงถนนกันมากๆ มันก็จะกระทบเรื่อง สูญญากาศทางการเมืองอย่างที่ในอดีตเคยมี อันนี้เรากลัวมากกว่า แต่เพียงประเด็นการเมืองมันเป็นวิกฤตที่มันแทรกเข้ามา ภายใต้วิกฤติอีกหลายวิกฤติที่เรากำลังเผชิญอยู่ ตรงนี้มันจะเป็นปัจจัยที่มันจะมีผลปลายปีรวมถึงปีหน้าด้วย ”

 

ทั้งนี้นายธนิต ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับครม.ของรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือเศรษฐกิจเลย เป็นเพียงการสมประโยชน์ของฝ่ายการเมือง จะมีการปรับหรือไม่ปรับก็มีการดำเนินงานต่อไป ไม่ได้สนองโจทย์เรื่องการเดินหน้าของเศรษฐกิจ รวมถึงไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ แต่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเพียงเล็กน้อย

 

“มันเป็นเรื่องการสมประโยชน์ของพวกการเมืองเขา มันไม่ได้ไปกระทบถึงด้านธุรกิจหรือเศรษฐกิจ เพราะว่าจะปรับหรือไม่ปรับ มันก็มีแนวทาง เขาก็มีคนทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าการปรับมันคงไปสนองโจทย์การเมืองมากกว่าถ้าจะมี มันไม่ได้สนองโจทย์เรื่องเศรษฐกิจให้เดินหน้า”

 

จากนี้ต่อไปคงต้องจับตาว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาเป็นเช่นไร จะตรงใจกับคนส่วนใหญ่หรือไม่ การเมืองไทยจะเป็นวิกฤตแทรกซ้อนทำเศรษฐกิจสะดุดอีกครั้งหรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube