การถอน ร่าง พรบ.กัญชา ออกจากวาระการประชุมของสภา ทำให้ไม่สามารถผลักดดันกฏหมายดังกล่าวได้ทันในสมัยประชุมนี้ เปรียบเหมือนเป็นการสกัดกั้นนโยบายหลักของภูมิใจไทยในการทำพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า โดยมีประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ 3 พรรคหลัก ที่ช่วยกันออกแรง แต่ดูเหมือนว่า “ภูมิใจไทย”จะแค้น และอาฆาต “ค่ายสีฟ้า” มากเป็นพิเศษ
ทั้งที่เสียงของประชาธิปัตย์ที่ยกมือโหวตจนต้องถอนร่างออกไป มีเพียง 30 เสียงเท่านั้น ต่างจาก เพื่อไทย ที่มีถึงเกือบ 100 และ พลังประชารัฐอีกกว่า 50 จนมีการตอบโต้กันอย่างดุเดือดของสมาชิกพรรค แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติในทางการเมือง เพราะการเมืองคือเรื่องของผลประโยชน์ หากสมประโยชน์ วินๆ ทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะไม่มีความขัดแย้ง แต่หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ ตามที่ตัวเองคาดหวัง ย่อมต้องมีการแสดงออก
ให้อีกฝ่ายรับรู้บ้างว่าไม่พอใจมากแค่ไหน และจะเกิดอะไรตามมา
ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการสิ้นสุดความร่วมมือของทั้ง 2 พรรค ที่จับมือกันต่อรอง กดดัน “พลังประชารัฐ” มาตลอด 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา และอาจทำให้วาระของสภาที่เหลืออีก 6 เดือนกว่าๆ สิ้นสุดลงเร็วขึ้นก็เป็นได้ หากทั้ง 2 พรรคเลิกเกรงใจกัน เลิกมีมารยาททางการเมืองต่อกัน เหมือนกับที่หัวน้าพรรคสีน้ำเงินส่งสัญญาณ และเริ่มการต่อสู้กันอย่างจริงจังจนพรรคแกนนำหลักไม่สามารถประคับประคองประสานรอยร้าวนี้ได้ ก็อาจนำไปสู่การยุบสภาเหมือนในอดีต
มีหลายคนเคยพูด ในทางการเมืองมักไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร ขอแค่ผลประโยชน์ลงตัวก็สามารถจับมือกันได้ทั้งหมด ซึ่ง ประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทยคือหนึ่งในตัวอย่างนั้น เคยร่วมมือกันครั้งแรกก็คือดีลประวัติศาสตร์ผลักดัน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี และครั้งต่อมาก็ร่วมกันต่อรองกดดันจนได้ 8 ตำแหน่งเท่ากันในการร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ ส่วนจะมีครั้งต่อไปอีกหรือไม่ คงยากที่จะคาดเดา คงต้องรอดูผลการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึงอีกครั้ง ระหว่างค่ายสีน้ำเงินที่สะสมคนด้วยการดึงและดูดมาจากพรรคต่างๆไว้จำนวนมาก กับสโลแกน “พูดแล้วทำ”
ขณะค่ายสีฟ้า ที่ดูจะอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง และครั้งหนึ่งเคยถูกปรามาสว่า “ดีแต่พูด” ใครจะเป็นต่อ ใครจะเป็นรองแต่ต้องไม่ลืมว่า “เพื่อไทย” คือตัวแปรสำคัญของสงครามกัญชาในครั้งนี้ เพราะหากไม่มีพรรคสีแดง กัญชาเสรีของ “ภูมิใจไทย” ไม่มีทางถูกสกัดอย่างแน่นอน ดังนั้นในจังหวะที่ “กัญชา” กำลังทำให้มิตรภาพ ระหว่างประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย กลายเป็นศัตรู เปิดฉากการต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ปักษ์ใต้กันอย่างดุเดือดในสนามเลือกตั้งที่จะมาถึง “เพื่อไทย” ที่หวังแลนด์สไลด์รวมถึงพลังประชารัฐ ที่ร่วมหัวจมท้ายสกัดกัญชา คงกำลังยิ้มเยาะอยู่ในใจ
รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความบอบช้ำของทั้ง 2 พรรคอย่างแน่นอน ดังนั้น “กัญชา” เกมนี้ ยังมีเวลาให้ผู้เล่นทั้ง 4 พรรค ได้ทบทวนกันอีกครั้งว่าจะเดินหน้ากันต่อแบบไหน 3 พรรคซีกรัฐบาล จะแตกหักกันไปเลย หรือจะรอมชอมกันต่อ ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่สำหรับ “เพื่อไทย”ที่ร่วมเล่นเกมกัญชาครั้งนี้ มีแต่กำไรล้วนๆ เพราะการออกมาประกาศจุดยื่นครั้งล่าสุด คือหนุนกัญชาการแพทย์เท่านั้น ไม่เอาสันทการ มันได้ใจ ตรงจริตประชาชน มากกว่าคำว่า “กัญชาเสรี” ที่ภูมิใจไทยพยายาม ชี้นำและผลักดันอยู่นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews