Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ปรับค่าแรงเพิ่มเงิน หนุนเศรษฐกิจ

หลังจากคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตามที่คณะกรรมการค่าจ้าง กระทรวงแรงงานเสนอ

 

 

 

โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไปนั้น ทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำในบางจังหวัดสูงสุดถึงวันละ 354 บาท ในจังหวัด ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต ส่วนในกรุงเทพและปริมณฑล อยู่ที่วันละ 353 บาท ส่วนนี้มองว่าจะเป็นภาระของผู้ประกอบการ จนมีผลต่อการประกอบธุรกิจหรือไม่

 

 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ มั่นใจว่า ดีต่อภาวะเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ มากกว่ามองเป็นภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและกระทบต่อการประกอบธุรกิจ

 

 

โดยการปรับขึ้นค่าแรงจะมีผลทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านการจับจ่ายใช้สอยตามจำนวนแรงงานที่ได้ปรับค่าแรงเพิ่ม ประเมินในเบื้องต้น เฉลี่ยแรงงานจะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นวันละ 15 บาท จากจำนวนรายงาน 10 ล้านคน จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 15,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 4 ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ร้อยละ 3.5-4.0

 

 

ในขณะที่ต้นทุนจากการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นนั้น อยู่ในระดับที่ผู้ประกอบการรับได้อยู่แล้ว เนื่องจากการพิจารณาค่าจ้างที่ปรับขึ้นมาจากการพิจารณาร่วมกันของคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้างและภาครัฐ ซึ่งไม่มีทางที่ผู้ประกอบการหรือนายจ้างจะปรับค่าจ้างสูงขึ้นจนส่งผลกระทบทำให้ บริษัทขาดทุน และมั่นใจว่าต้นทุนดังกล่าวผู้ประกอบการจะไม่ผลักภาระต้นทุนไปให้กับผู้บริโภค โดยการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นแน่นอน

 

 

โดยกำลังซื้อของผู้บริโภคเวลานี้ อยู่ในช่วงที่ กำลังค่อยๆทยอยฟื้นตัวมากขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากการท่องเที่ยว การอัดฉีดเม็ดเงินคนละครึ่ง และการปรับค่าแรง ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ยังไม่ได้ปล่อยผ่านให้ผู้ประกอบการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นได้ เป็นการช่วยประคับประคองไม่ให้ค่าครองชีพพุ่งสูงเกินไปนัก

 

 

สะท้อนจากดัชนีค้าปลีกในเดือนสิงหาคมที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยนายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย บอกว่า ดัชนีค้าปลีกในช่วงเดือนสิงหาคม แม้ว่าจะมีสัญญาณเป็นบวก เพราะผู้บริโภคออกมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ แนวโน้มดอกเบี้ยที่จะดีดตัวเพิ่มขึ้น และค่าแรงขั้นต่ำที่ประกาศปรับเพิ่มขึ้น

 

 

ภาครัฐจึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายอย่างเร่งด่วนเพื่อการส่งเสริมการบริโภคในประเทศ โดยนำโครงการช้อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้ง พร้อมเพิ่มวงเงินเป็น 100,000 บาท กระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง และเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง รวมทั้งไทยเที่ยวไทยให้ต่อเนื่องจนถึงช่วงสิ้นปี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube