กลเกมการเมือง ทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น แม้จะยังแบ่งเขตเป็นทางการไม่ได้ เพราะกฏหมายลูกยังไม่เรียบร้อย ยังอยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญ แต่เหลืออีก 5 เดือน วาระของสภาชุดปัจจุบันก็จะสิ้นสุดลง บรรดาพรรคการเมือง นักเลือกตั้ง ก็เตรียมพร้อมที่จะได้ลงสนาม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครกันอย่างคึกคัก ประชาชนใกล้จะกลับมาเป็นใหญ่ เป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศอีกครั้ง
เพื่อไทยประกาศชัดเจนขอแลนด์สไลด์ทั่วประเทศหยุดเผด็จการ พร้อมโยนชื่อ “อุ๊งอิ๊ง และ เศรษฐา”เป็นแคนดิเดทนายกฯ, ส่วนพลังประชารัฐ ตั้งเป้าเก็บ 150 ที่นั่งเพื่อบริหารประเทศต่อไป, ภูมิใจไทยขอ 120 ที่นั่ง “อนุทิน” เป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะก้าวไกล ก็หวังเกิน 100 และมี ส.ส.เขตจากทุกภาค ส่วนพรรคเก่าแก่ประชาธิปัตย์ มาแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ขอแค่มากกว่าเดิมก็พอใจแล้ว และมีอนาคตทางการเมืองของเลขาฯพรรคเป็นเดิมพัน ซึ่งจากตัวเลขของแต่ละพรรคล้วนน่าสนใจ และมีนัยยะแฝงทางการเมืองทั้งสิ้น โดยเฉพาะพลังประชารัฐ กับ ภูมิใจไทย ที่ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น หากทำได้ตามเป้า 2พรรคนี้ แทบไม่ต้องง้อพรรคอื่นจัดตั้งรัฐบาลใหม่เลยส่วนจะทำได้หรือไม่ ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ
หากดูความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆแล้ว พลังประชารัฐ ค่อนข้างสับสน แกนนำกับลูกพรรคทำอะไรหลายๆอย่างสวนทางกัน ต่างจากภูมิใจไทยถือว่าคึกคักมากที่สุด มี ส.ส. และอดีต ส.ส.จากหลายพรรค เตรียมย้ายเข้ามาสมทบ เพื่อเป็นกองหน้าในสนามเลือกตั้ง ทั้งจาก พลังประชารัฐ ในพื้นที่ภาคกลาง และ กทม., จากประชาธิปัตย์ แถบเมืองอุบลฯ หรือแม้แต่ข้ามฟากจากเพื่อไทย อีกนับ 10 ราย ทั้งอุดรธานี,ศรีสะเกษ,นครราชสีมา และพิษณุโลก
ซึ่งล้วนบ่งบอกว่า สถานะความพร้อมของภูมิใจไทย กับเป้าหมาย 120 ที่นั่งนั้นไม่ธรรมดา และในช่วง 5 เดือนที่เหลือนี้ ยังมีข่าวลือดีลลับอีกมากมายทั้ง ดึงก๊วนใหญ่จากเมืองย่าโม เข้ามาสมทบอีก เพื่อทดแทนหากแกนนำค่ายแป้งมันจะย้ายพรรค
รวมถึงภาพครอบครัวที่เกี่ยวดองกันของ “อนุทิน กับ ชนม์สวัสดิ์” ก็ยังอาจตีความถึงอนาคตทางการเมืองของกลุ่ม”ปากน้ำ”ว่าจะตามเข้ามาด้วยนั่นเอง ดังนั้นเมื่อนับรวม ส.ส.ของภูมิใจไทยในเวลานี้ที่มีอยู่ 65 ที่นั่งบวกกับที่กำลังจะมา และมีการยืนยันตัวเลขในงานวันเกิด”เนวิน” เมื่อต้นเดือน 28 คน กับอีกหลายกลุ่มที่กำลังคุยๆกันอยู่ และรอยืนยันคำตอบ
เมื่อถึงเวลาเหมาะสม รวมถึง บรรดานักการเมืองท้องถิ่นบ้านใหญ่ บ้านรอง แต่ละจังหวัด ที่อัพเกรด จาก ส.จ.รอลงสมัคร ส.ส.อีกหลายสิบ ประกอบกับนโยบายพรรคที่โดดเด่น พูดแล้วทำ “กัญชาเสรี” และอื่นๆ รวมถึงการประกาศชัด จงรักภักดี ไม่แก้ ม.112 ก็ช่วยผลักดัน ทำให้เป้าหมาย 120 ที่นั่ง ที่ “ครูใหญ่” ตั้งโจทย์ให้ เพื่อส่ง “อนุทิน” นั่งนายกฯ มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากทีเดียว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews