ห้วงนี้หนุ่มทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าค่ายก้าวไกลยิ้มแก้มปริ หลังขึ้นแท่น คะแนนความนิยมเป็นอันดับ1 ในสำนักนิด้าโพลที่สำรวจชาวกรุงเทพฯ ว่าจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
ซึ่งพิธาเข้าวินด้วยเหตุผลเป็นคนมีความมุ่งมั่น มีความรู้ความสามารถ เป็นคนรุ่นใหม่ และชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล ด้านเจ้าตัวก็ออกมาขอบคุณพร้อมบอกจะพยายามเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่มุ่งมั่น และขยันมากที่สุด ซื้อใจประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ใน กทม. และนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ พิธา ยิ้มสดชื่น เพราะเมื่อช่วงเดือน มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
นิด้าโพล สำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าพิธามาเป็นอันดับ2 ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นคนตรงไปตรงมา ชื่นชอบในวิธีการทำงาน มีวิสัยทัศน์และแนวคิดแบบคนรุ่นใหม่ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แต่ที่น่าสนใจคืออันดับ 1ของผลโพล ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
ซึ่งถ้าจะวิเคราะห์ตามสภาพความเป็นจริงแล้ว คะแนนความนิยมของหนุ่มพิธา นั้นส่วนใหญ่มาจากความที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ประกาศท้าชน ท้ารบ มักใหญ่ใฝ่สูง ต้องการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างประเทศ ซึ่งไปตรงกับใจประชาชนคนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่ง ที่มีทัศนคติ ความคิดทางด้านการเมืองที่คล้ายคลึงกันจึงให้การสนับสนุน มาตั้งแต่ช่วงยุคพ่อของฟ้า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อเนื่องมาถึงยุคของพิธา ที่กลุ่มฐานแฟนคลับยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม
ขณะเดียวฐานเสียงของ พิธา และค่ายก้าวไกล ไปทับซ้อนพื้นที่ของค่ายเพื่อไทย ของเฮียโทนี่ วูดซั่ม จึงทำให้ปรากฏความไม่ลงรอยของ 2พรรคนี้อยู่บ่อยๆ สมาชิกของแต่ละค่ายมักจะออกมาวางมวยทางการเมืองหลายครั้งหลายหน แต่บางคนเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว 2พรรคนี้จะถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องจับมือร่วมกันเพื่อต่อสู้กับอีกขั้วอำนาจหนึ่ง แม้ว่าบางนโยบายพรรคก้าวไกลออกตัวแรงเกินกว่าที่พรรคอื่นใดจะเข้าร่วมสังฆกรรมได้
ในขณะที่นักเคลื่อนไหวบางคนมองในมุมที่ต่างออกไปอย่าง เดอะตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน อดีตเสื้อแดงตัวพ่อ กล่าวในเฟซบุ๊กไลฟ์ว่าพรรคเพื่อไทยถ้ามุ่งแลนด์สไลด์ก็ทำไป เมื่อทำไม่ได้ก็หันมาจับมือ พลังประชารัฐ แล้วประชาชนจะคิดอย่างไร และภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์จะว่าอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อไทยไม่ประกาศเลยคือ รวมตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล
เนื่องจากปอดไม่ใหญ่ จึงไม่กล้าจับมือกับก้าวไกล ” อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมี ประเด็นร้อนในเรื่อง พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ สุราก้าวหน้าทางหนุ่มพิธาออกมาอวยทักษิณ ว่า ในเดือน ก.ย. 2545 รัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ ทักษิณ ชินวัตร เคยจัดมหกรรมสุราไทยและโอท็อป จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธารที่ส่งต่อกระบวนการปลดล็อกสุราไทยให้สามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและตัวเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์นี้ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณต่อไปให้เกิดผลสำเร็จ”
อันที่จริง จะว่าไปแล้วความสัมพันธ์ ของทักษิณ กับพิธา ก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกัน เพราะพิธาเป็นหลานของ เสี่ยเฮง-ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนใกล้ชิด ทักษิณ นั้นเอง ซึ่งผดุงนั้นรับใช้ ทักษิณ มาตั้งแต่ทำงานเอสซี แอสเสท ต่อเนื่องมาถึงช่วงที่ ทักษิณ ครองอำนาจการเมือง ผดุง กลายเป็นเงาตามตัว คนข้างกาย คอยถือโทรศัพท์ หิ้วกระเป๋า และคอยประสานทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่
ฉะนั้นแล้วถ้าได้เสี่ยผดุงเป็นตัวประสานก็น่าจะทำให้ความสัมพันธ์เพื่อไทย ก้าวไกลดีขึ้นก็เป็นได้สุดท้ายแล้วเมื่อปรากฏชื่อของ อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ในยุทธจักรการเมืองไทย นาม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงต้องกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองไปในบัดดล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews