Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ม็อบ” ต้านเอเปค VS “ป้อม” ปราบป่วน

หลายฝ่ายบางพวกอาจจะมองว่านี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแสดงเจตจำนงอันบริสุทธิ์ แต่ทว่าประชาชนกลุ่มหนึ่งกลับมองว่านี้แหละคือจังหวะที่ประกาศจุดยืนเพื่อให้ชาวโลกได้รับรู้เรื่องราวอันมืดดำของประเทศเรา

 

 

ฉะนั้นแล้วสังคมจึงได้เห็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนหลากหลายกลุ่มระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 หัวเชื้อหลักมาจาก เครือข่ายประชาชน “ราษฎรหยุด APEC 2022″ นำโดย ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ น้องมายด์, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน และแนวร่วมสำคัญอย่าง กลุ่มทะลุฟ้าประกาศจัดกิจกรรมคู่ขนานจากกลุ่มต่างๆ ของประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับกระทบจากนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา

 

อาทิ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน, สมัชชาคนจน, พีมูฟ, เครือข่ายสลัมสี่ภาค และอื่นๆ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ น้องมายด์ ระบุว่า”การที่รัฐบาลจะใช้ความรุนแรง จะใช้กระสุนยาง หรืออะไรใดๆ ก็ตามสลายการชุมนุมคิดว่าคงเกินเหตุ และขายขี้หน้ารัฐบาลมากเกินไปในเวทีต่างชาติ เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังมีเวทีผู้นำจากต่างชาติอยู่ตรงนั้น

 

คิดว่ารัฐบาลคงไม่กล้าทำอะไรนอกเหนือไปจากการกั้นพื้นที่ อย่างไรสุดท้ายก็แล้วแต่ไม่ว่าจะถูกสลาย หรือไม่ถูกสลายอย่างไร สารที่สื่อสารออกไปก็คงชัดเจน”

 

ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มนักศึกษา ประชาชน นักกิจกรรม และเครือข่ายกว่า 10 กลุ่ม อาทิ We Wolunteer หรือ วีโว่,กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย,, สหภาพคนทำงาน, คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน , กลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เป็นต้น ประกาศนัดหมายจัดกิจกรรม “WHAT HAPPENED IN THAILAND” นำขบวนจากแยกอโศกมนตรี เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อยื่นหนังสือถึงมือผู้นำเขตเศรษฐกิจ

 

ขณะฝ่ายภาครัฐ นำโดย “บิ๊กป้อม” พ.อ.ประวิตร ฐานะประธานกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย ประกาศสุดกร้าว กำชับเข้มเจ้าหน้าที่เข้มพวกมาป่วนการประชุม ยืนยันการประชุมนุมเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคง ความปลอดภัยสาธารณะและสิทธิผู้อื่น หากมีข้อเรียกร้องให้ยื่นหนังสือตามที่กระทรวงต่างประเทศจัดเตรียมไว้ให้ โดยจะไม่ยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศเด็ดขาด หากฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามยุทธวิธี ให้ลงโทษตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

 

ซึ่งกรณีการจัดมวลชนเคลื่อนไหวเพื่อหวังถล่มรัฐบาลท่ามกลางแขกบ้านแขกเมืองนั้น ในอดีตเคยมีปรากฏการณ์นี้มาแล้ว ในสมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ เมื่อแกนนำแนวร่วประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. หรือที่เรียกกันว่าคนเสื้อแดง นำมวลชนบุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชรีสอร์ต เมืองพัทยา วันที่ 11 กันยายน 2552 ต่อมามีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่เมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรีอีกด้วย
หลังสถานการณ์สงบลง มีการต่อสู้กันถึง 3ศาล

 

จนในที่สุดในวันที่ 11 กันยายน 2562 หรือ 10ปีต่อมา ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ลงโทษจำคุก แกนนำนปช.รวม 12 คน ล้มการประชุมอาเซียน พัทยา เมื่อปี 2552 โดยไม่รอลงอาญา และให้หมายจับจำเลยที่ไม่มาศาล 11 คน

 

โดยมีแกนนำเสื้อแดงคนดังๆ ที่ต้องมรสุมลูกนี้อย่างเช่น นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายนิสิต สินธุไพร, นายวรชัย เหมะ, นายพายัพ ปั้นเกตุ, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม วันนี้ บริบททางการเมืองผันแปรไป การเผชิญหน้าระหว่างรัฐกับ”ม็อบ” ต้องมีอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า ความรุนแรงน่าจะอยู่ในระดับที่ไม่เกินขีดสามัญสำนึกจนเกินไป สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือมือที่ 3 อาจจะฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ที่ไม่คาดขวัญ สุดท้ายแล้วประเทศชาติก็จะเสียหายในที่สุด

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube