หลังจากรอคอยมานานกว่า 30 ปีและต้องใช้เวลาเตรียมการเพื่อจัดการเวทีประชุมระดับโลกนี้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีกลุ่มต่างๆออกมาต่อต้านแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นหัวข้อหลักในการประชุมเอเปคในครั้งนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย เป็นประธานการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ภายใต้หัวข้อ “การเจริญเติบโตที่สมดุล ครอบคลุมและยั่งยืน” อย่างเป็นทางการ โดยมีผู้นำและผู้แทนทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ อาทินายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา นายอันเดรย์ เบโลอูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย คนที่ 1 และนายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นบทสรุปการหารือเพื่อร่วมฟื้นฟูภูมิภาคไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น เอเปคควรทำอย่างไรเพื่อเปลี่ยนผ่าน โดยเห็นว่า ปัจจุบันยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการแพร่ระบาด ของโควิด-19 และความท้าทายของสถานการณ์โลก รวมทั้ง ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กระทบต่อทั้งโลก จึงต้องร่วมมือกัน เพื่อบรรเทาผลกระทบ และปกป้องโลก โดยไทยนำเสนอแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เพื่อเป็นยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาและการเติบโตในระยะยาวที่เข้มแข็ง สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม
นายกรัฐมนตรีไทย ยังขอบคุณทุกเขตเศรษฐกิจที่สนับสนุนเป้าหมายกรุงเทพฯ จนบรรลุฉันทามติด้วยดี โดยคาดหวังว่าจะร่วมรับรองเอกสารสำคัญในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นมรดกสำคัญของเอเปค 2565
สำหรับผลดีที่ไทยจะได้จากการประชุมเอเปคนั้นทางหอการค้าไทย คาดว่า มีแขกที่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ ทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน รวมทั้งผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ซึ่งจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนโดยตรงในระบบทันที ไม่น้อยกว่า 1,000-2,000 ล้านบาท
พร้อมทั้งยังมีผลดีต่อประเทศไทย ที่มีการนำเสนอข่าวและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ออกสู่สายตาชาวโลก ที่จะสร้างความเชื่อมั่นประเทศ ทั้งในแง่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวให้ทั่วโลกได้เห็น โดยคาดการณ์ว่า อาจส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย ร่วม 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews