มาตามนัด ในนามของความรุนแรง ทั้งการเคลื่อนไหวของ “ม็อบราษฎรหยุดเอเปค 2022” และกระสุนยาง พร้อมหยดลือดและคราบน้ำตา ท่ามกลางการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย และจับกุมผู้ชุมนุมบางส่วน
ต่อมา มายด์- ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำ ร่ำไห้พร้อมโชว์หลักฐานเป็นปลอกกระสุนโดยบอกว่า “นี่คือกระสุนยางที่ยิงมาใส่เรา ยิงกระสุนยางใส่พี่น้องทำไม ละอายแก่ใจบ้างไหม” พร้อมบอกต่อว่าข้อเรียกร้องคือต้องการให้ปล่อยเพื่อนเราทันที หากไม่ปล่อย เราจะยืนหยัดอยู่เเบบนี้ เพราะสิ่งที่รัฐทำวันนี้เจ็บปวดมาก ยอมรับไม่ได้ เงื่อนไขเดียวที่เราจะถอยคือคืนเพื่อนของเราทุกคนกลับมา และถ้าไม่ปล่อยเพื่อนของเราคืนมา เราไม่กลับ พร้อมขอส่งสารไปยังผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมเอเปคอยู่ในขณะนี้ ว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำกับประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่สามารถยอมรับได้
เป็นที่สังเกตุว่าการเคลื่อนไหวมวลชนครั้งนี้ ไม่ค่อยมีดาวดังที่มีชื่อคุ้นหูมากนัก เหลือเพียง นักสู้หน้าหวาน วัย 25 ปี อย่าง มายด์- ภัสราวลี ที่รับหน้าเสื่อเป็นแกนนำ ทำให้สปอตไลต์จับจ้องอีกครั้ง โดยความเป็นมาของนักเคลื่อนไหวรายนี้ เกิดขึ้นในปี 2558 มีการรวมตัวกับเพื่อนๆ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครตั้งกลุ่ม “มหานครเพื่อประชาธิปไตย” ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มนิสิต-นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ
ต่อมาในปี 2563 เธอออกมาร่วมกับ ‘คณะประชาชนปลดแอก’ จัดชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 18 กรกฎาคม และ 16 สิงหาคม 2563 ก่อนใช้ชื่อ ‘คณะราษฎร’ ในเวลาต่อมา จากนั้นก็เคลื่อนไหวในแทบทุกกิจกรรมของการต่อต้านรัฐบาลลายพราง แต่ที่ดุเดือดและหมิ่นเหม่ที่สุดคือวันที่ 26ต.ค. 2563 ที่เธอยืนอ่านจดหมายเปิดผนึกที่ยื่นให้ทูตเยอรมนีบนเวทีท่ามกลางผู้ชุมนุมด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย
แน่นอนว่าการออกมายืนกลางสายฝนย่อมต้องเปียกและมีราคาที่ต้องจ่ายมากมาย เพราะเธอถูกแจ้งความดำเนินคดีเกือบ 10 คดีแล้ว มีทั้งข้อหายุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116, พ.ร.บ.การชุมนุมฯ, พ.ร.บ.ความสะอาด, การใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 112 อีก 2 คดี อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่พานักจิตวิทยาไปพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของเธอที่บ้านพักถึง 2 รอบ ซึ่งเธอตั้งคำถามว่าเป็นกดดันให้ยุติการเคลื่อนไหวใช่หรือไม่
ขณะที่สาวแกร่งอีกรายลูกสาวสุดเลิฟของเฮียโทนี่ “อุ๊งอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าที่แคนนิเดตนายกรัฐมนตรีค่ายเพื่อไทยที่จัดเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เชี่ยวชาญโลกออนไลน์ ซึ่งเมื่อมีเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้าน พล.อ.ประยุทธ์ “อุ๊งอิ๊งค์”ทวีตข้อความผ่าน @ingshin ว่า “การแสดงความเห็นแบบสันติ ปราศจากอาวุธของประชาชนเช่นนี้ รัฐไม่ควรใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยเฉพาะการใช้กระสุนยางในระยะประชิด”
และก่อนหน้านี้ “อุ๊งอิ๊งค์” เพิ่งจะ หวดรัฐบาล ในทำนองว่าเมื่ออดีตรัฐบาลไทยรักไทย จัด APEC ออย่างยิ่งใหญ่ และคนไทยได้ประโยชน์มากมาย จึง คาดหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากการประชุม APEC ครั้งนี้เหมือนครั้งเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ที่รัฐบาลยึดถือและมีหัวใจคือประชาชนเป็นสำคัญ”
อย่างไรก็ตามทั้ง “อุ๊งอิ๊งค์” และ “มายด์” ต่างถูกยกย่องว่าดอกไม้เหล็กในดงทมิฬ เป็นตัวแทนของประชาธิปไตย เป็นนักต่อสู้ตัวเล็กๆ ที่หาญกล้าต่อสู้กับขุนทหารผู้ยิ่งใหญ่ คนหนึ่งต้องต้อสู้ในสภาในฐานะนักการเมือง คนหนึ่งต้องฝ่าฟันบนท้องถนนในฐานะผู้นำมวลชน สุดท้ายแล้วกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า ทั้ง 2คนจะยังคงยืนเด่นโดยท้าทายท่ามกลางแสงดาวแห่งศรัทธาได้ยืนยาวขนาดไหน?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
