เศรษฐกิจโลกในปีหน้าความเสี่ยงจากหลากหลายปัจจัย จากความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งความเสี่ยงของประเทศไทยที่เข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง ภายใต้การลุ้นว่าใครจะกลับมาเป็นผู้นำรัฐบาลอีกครั้ง ต่อจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดิม กับคั่วรัฐบาลเดิม ก็ยังน่าติดตาม
โดยฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ประเมินการเติบโตเศรษฐกิจโลกในหน้าคาดว่าจะขยายตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.2 โดยสาเหตุหลักมาจาก ธนาคารกลางต่างๆ ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น บวกกับราคาพลังงานที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การเติบโตของรายได้ครัวเรือนและความเชื่อมั่นในการบริโภคลดลง ขณะที่เศรษฐกิจของยุโรป และสหรัฐ ปี 66 ขยายตัวเท่ากันเพียงร้อยละ 0.5 ซึ่งสอดคล้องกับสำนักเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ IMF และ World Bank
หากพิจารณามุมมองเศรษฐกิจไทย สำนักเศรษฐกิจของต่างประเทศมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย โดย IMF และ Worldbank คาดการขยายตัวปีหน้าของไทยอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ซึ่งฟื้นตัวเด่นกว่าประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐฯ และยุโรป
ด้านนายพรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ได้ออกมาเปิดเผยกับทาง สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เศรษฐกิจโลกในปีหน้าคงมีภาวะถดถอย แต่ไม่รู้จะมาแรงแค่ไหน ทำให้ ธนาคารสหรัฐ หรือ เฟด อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหรือดำเนินการช้าหน่อย คงมีโอกาสชะลอตัว แต่ไม่รู้จะรุนแรงแค่ไหน ไทยคงได้รับผลกระทบจากการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อาจทำให้ยอดต่างๆไม่เป็นไปตามคาด
ขณะที่ปัจจัยรัสเซีย ยูเครน ยังต้องจับตาเพราะมีผลต่อราคาพลังงานได้ในระยะข้างหน้า แต่โอกาสราคาพลังงานจะดีดตัวสูงคงมีไม่มากเพราะเศรษฐกิจโลกยังจะชะลอตัว ส่วนอัตราเงินเฟ้ออาจจะไม่รุนแรงเท่ากับปีนี้ที่ดีดตัวสูง
ด้านปัจจัยในประเทศปีหน้ามีการเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้มีความผันผวนและความไม่แน่นอนในระยะสั้นและอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศที่ต้องปรับขึ้นตามราคาพลังงานที่ใช้ในการผลิต หลังต้นทุนสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมองว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังมีความท้าทายจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ หากเศรษฐกิจโลกถดถอยไม่มาก จีนเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น ส่วนนโยบายภาครัฐคงไม่น่ามีอะไรตื่นเต้น เพราะไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลคงใช้จ่ายลำบากบนภาวะการคลังที่ตึงตัว
จากมุมมองของอดีตคณะกรรมการนโยบายการเงินเห็นได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้ายังคงมีความเสี่ยง จากความไม่แน่นอนในหลายๆด้าน รวมทั้งในประเทศเองที่เข้าสู่ช่วงใกล้เลือกตั้งหรือแม้จะมีการเลือกตั้งรัฐบาลก็ยังไม่กล้าที่จะใช้ในโยบายอย่างเต็มที่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าที่เป็นที่น่าจับตามองไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศยังคงมีความลำบากในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
