ชัดเจนแล้วหนึ่ง เมื่อเสี่ยเฮ้ง ลูกน้ำเค็ม สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไปกราบลา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐแล้ว เพื่อไปทำงานการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมร่ายลีลาเปรียบเทียบ 2 ปอ เหมือนพ่อแม่ที่ยังรักกันแต่ต้องแยกกันอยู่ ยันไม่ใช่บ้านแตก เพราะยังรักกันอยู่
ซึ่งคล้ายกับ สายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.เมืองคอน ที่บอกว่ารัก ประยุทธ์ เหมือนพ่อ รัก ประวิตรเหมือนแม่ แต่ขอตาม “ลุงตู่” ไปอยู่ “รวมไทยสร้างชาติ”แน่นอน
งานนี้เท่ากับย้ำหัวหมุดว่า น้องตู่ต้องแยกทางกับ พี่ป้อมแล้วจริงๆ ซึ่งเมื่อกวาดตามองไปทั่วยุทธภพการเมืองน้ำเน่า จะพบค่ายการเมืองที่เป็นเสมือนห้างร้าน คอยเกื้อหนุนค้ำยัน อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จำนวน 4 พรรค โดยพรรคแรกคือ รวมไทยสร้างชาติ ที่ มี บิ๊กตุ๋ยพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลของ หนุ่มมาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปปัดกวาดบ้านรอรับบิ๊กบอสมากุมบังเหียนแล้ว
สำหรับ บิ๊กตุ๋ย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นั้นถือว่าไม่ธรรมดา มือกฎหมายชั้นเซียนคนหนึ่ง ผ่านการเมืองมาพอสมควร ลูกหม้อค่ายสีฟ้า มีสายสัมพันธ์กับบิ๊กๆ หลากหลายสาขาวิชาชีพ และที่สำคัญยังเป็นหนึ่งในน้องพี่เซนต์คาเบรียลคอนเนคชั่น กับลุงป้อม แถมยังเป็นเพื่อนสนิทร่วมรุ่นขาสั้นกับ บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผู้บัญชาการทหารบก
ซึ่งพีระพันธุ์เคยเล่าไว้ว่า ผมกับแดง พล.อ.อภิรัชต์ สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาอายุน้อยกว่าผม 1 ปี สนิทกันมานานแล้ว พรรคที่ 2 ที่ชูมือหนุนลุงตู่สุดใจ คือ พรรคเทิดไท” ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก พรรคไทยรักชาติ และวันก่อน ได้หัวหน้าค่ายคนใหม่ คือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน พร้อมประกาศจุดยืน ปกป้องสถาบันของชาติ และคงมาตรา 112 ไม่เอาคนที่ล้มล้างสถาบัน สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ
ซึ่งทางแรมโบ้อีสานนั้นยังเชื่อมั่นว่า 3ป.ไม่มีทางแยกกันอย่างแน่นอน แม้จะแยกทางเดินกันก็ทำงานทางการเมืองคู่ขนานกันได้ ความเป็นพี่เป็นน้อง 50 ปี ตัดกันไม่ขาด และที่ผ่านมา แรมโบ้อีสาน ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่เปลี่ยนขั้วได้แบบ 360 องศา จากภักดีนายใหญ่ทักษิณยิ่งชีพ มาสู่องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่แบบสุดลิ่มทิ่มประตู เชียร์กันแบบขนหน้าแข็งเปียก ท๊อปบู้ทสะอาดเรี่ยมเร้เรไรทุกซอกทุกมุมเลยทีเดียว
พร้อมกันนั้นเวลาที่ ทักษิณ คลับเฮ้าส์แล้วพาดพิงลุงทำเนียบเมื่อไร วันรุ่งขึ้นเฮียแรมโบ้อีสาน ก็จะลุกมาเขียนหรือไลฟ์เฟชบุ๊คตอบโต้แบบรุนแรงทั้งเนื้อหา และวาจา จนโดนอีกฝ่ายลุกมาโต้กลับเป็นประจำ พรรคที่ 3 คือพรรคไทยภักดี ที่มีดาวดังอย่าง หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นหัวหน้า และมีนายหัวถาวร เสนเนียม คนโตแดนใต้ เป็นประธานพรรคไทยภักดี ซึ่งแน่นอนว่าพรรคนี้จุดยืนชัดเจนประกาศเป็นศัตรูกับทุกฝั่งทุกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลลายพราง โดยเฉพาะเฮียโทนี่เจ้าสำนักค่ายเพื่อไทย ที่ทางหมอวรงค์มักจะ ออกมาตอบโต้ทักษิณ และพลพรรคอยู่เสมอๆ รวมไปถึงการต่อต้านกลุ่มพวกหัวก้าวหน้าอย่างม๊อบราษฎร หรือเครือข่ายต่างๆ ที่มีเป้าประสงค์ล่วงละเมิดสถาบัน
พรรคที่ 4 คือพรรคพลังธรรมใหม่ ที่มีหัวแถวชื่อ นพ.ระวี มาศฉมาดล ที่ขณะนี้กำลังต้องมรสุมโดนลูกพรรคยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามทุจริต สภาฯ ตรวจสอบพฤติกรรมยักยอกเงินบริจาคของพรรค ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทุกอย่างที่ถูกกล่าวหาเป็นเรื่องเท็จ พร้อมระบุสั้นๆ ทิ้งท้ายว่า” งานนี้มันเป็นการเมืองขนาดใหญ่ ที่ต้องการล้มคนของท่านนายกฯ ผมบอกได้แค่นี้ครับ” แน่นอนว่า ว่าทั้ง 4 พรรคเหล่านี้ชัดเจนว่าล้วนอยู่ในฝั่งเดียวกันกับขั้วอำนาจสีเขียว ซึ่งในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องผนึกกำลังเพื่อสัปปยุทธ์กับ อีกขั้วหนึ่งที่นำทีมโดยทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการแลนด์สไสด์เท่านั้นที่จะเผด็จศึกได้เบ็ดเสร็จ แต่จะเป็นจริงหรือไม่นั้น ไม่นานได้รู้กัน!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews