ห้วงยามนี้จาก กระแส “ทุนมังกรสีเทา” ทำให้ชื่อ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ได้รับความสนใจของสาธารณชนมากขึ้นในฐานะที่มี อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถือหุ้นใหญ่สุดของ บริษัท นอกจากนี้ยังมีพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ และ บรรณพจน์ ดามาพงศ์ที่เป็นเครือญาติร่วมเป็น 1 ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย แถมยังมีเขยใหญ่ทักษิณ อย่าง ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ นั่งเป็นซีอีโอบริหารงานอยู่ด้วย
ในจังหวะใกล้เคียงกัน ชื่อของ”เสี่ยนิด” “เศรษฐา ทวีสิน” วัย 59 ปี บิ๊กบอส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นในฐานะว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาเขามักฉายโชว์ความคิดความเห็นหลากเรื่อง หลายผ่าน สื่อโซเชียลทุกแขนง โดยเฉพาะทวิตเตอร์ทั้งในมุมเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
ซึ่งแน่นอนว่าเขามักจะมีความเห็นในทิศทางตรงกันข้ามกับรัฐบาลขุนทหารและเมื่อไม่นานมานี้ “เสี่ยนิด” ได้เพิ่มความชัดเจนให้กับแฟนคลับของเขาไปอีกขั้นหนึ่ง เมื่อเศรษฐาทวิตเตอร์มีข้อความว่า “6-8 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของเราไม่ได้นำประเทศไทยไปมีจุดยืนในเวทีโลกเลย ผู้นำคนต่อไปผมว่าต้องกล้าที่จะเดินออกไปสู่เวทีโลก” ซึ่งทวีตนี้มีผู้กดไลก์และรีทวีตจำนวนมาก พร้อมข้อความแสดงความคิดเห็น ที่หนึ่งในนั้นเขียนว่า “ถ้าท่านมาอยู่เพื่อไทย ผมเลือกเพื่อไทยครับ” ต่อมา เศรษฐา ตอบกลับว่า “ผมอยู่เพื่อไทยครับ”
นอกจากบริษัทอสังหายักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 17,727ล้านบาท และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 26,264ล้านบาท แล้วยังมีบริษัทอสังหาอีก2ราย ที่อนุมานได้ว่าน่าจะอยู่ฟากฝั่งเดียวกับกับค่ายเพื่อไทย นั้นคือบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 5,708 ล้านบาท ที่มีเจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่คนในตระกูลธัญลักษณ์ภาคย์
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ มี ดร.ยุ้ย น.ส. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นดร.ยุ้ย คนเดียวกับที่เป็น กุนซือผู้กำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียง และมันสมองสำคัญที่นำไปสู่ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ในศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ในปี 2555 ชัชชาติเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และถ้าความสัมพันธ์ ชัชชาติกับ ทักษิณ เป็นของจริง ก็น่าจะเชื่อมไปถึง ดร.ยุ้ย ที่น่าจะโอเคกับ ทักษิณ ด้วยเหมือนกัน
ส่วนอีกหนึ่งคือบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ที่ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด114,717 ล้านบาท คุมบังเหียนโดย บิ๊กบอสอนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งเมื่ออดีตปี 2557 เกิดความฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดีย โดยมีการโพสต์และแชร์ภาพที่อ้างว่าเป็นภาพ “นายอนันต์ อัศวโภคิน” ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกต่อสาธารณชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณถนนอักษะ ในช่วงที่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดงในหลากหลายสถานที่กันไป
ทางสื่อใหญ่อย่าง “ผู้จัดการออนไลน์” เคยเขียนว่าเป็นที่รับรู้ของคนในวงการอสังหาริมทรัพย์ว่า นายอนันต์ มีความใกล้ชิดกับ ทักษิณ ตั้งแต่สมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี และลือว่าเขาเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ อีกด้วยนอกจากนี้ ข่าวสดออนไลน์ เคยรายงานไว้เมื่อปี 2562 ว่าทักษิณ จัดงานวันเกิดครบ70 ปี ที่นครดูไบ ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจต่างชาติ มีนักธุรกิจไทยไม่กี่ราย อาทิ นายประชา มาลีนนท์, นายอนันต์ อัศวโภคิน เป็นต้น
อย่างไร ทั้ง 4 บริษัทอสังหาฯเหล่านี้ต่างเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องมีหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชนอยู่แล้ว ส่วนตัวบุคคลนั้นจะรักใครชอบใครศรัทธาใครก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลกันไปนั้นเอง!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
