เคยเป็นพระเอกมาโดยตลอดสำหรับการส่งออกไทย เพราะเป็นเครื่องยนต์เดียวที่ยังสามารถประคับประคองเศรษฐกิจได้ ในช่วงการระบาดของโควิด-19 แต่ล่าสุดพระเอกอาจถูกลดบทบาทเหลือแค่ตัวประกอบ
โดยมีพระเอกใหม่เป็นภาคการท่องเที่ยว เพราะหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ภาคการท่องเที่ยวซึ่งมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกมากมาย โดยเฉพาะในส่วนของภาคบริการ จะเป็นแรงส่งที่ดีสำหรับเศรษฐกิจไทยในปีหน้า
โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า หอการค้าไทยประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทย ในปี 2566 ว่า ปัจจัยบวกที่มีผลต่อเศรษฐกิจหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรับตัวดีขึ้นและปรับเป็นโรคประจำถิ่น การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
ซึ่งในปีนี้คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 11 ล้านคน สร้างเม็ดเงินในภาวะเศรษฐกิจ 5.4 แสนล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 22 ล้านคน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1.1 ล้านล้านบาท รวมถึงการใช้จ่ายของภาคเอกชนมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน รายได้ของเกษตรกรยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า จะมีส่วนสำคัญที่จะมีเม็ดเงินเข้ามาช่วยเติมในระบบเศรษฐกิจอีกกว่า 40,000 ล้านบาท จึงคาดว่า จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 3.6 จากในปีนี้ที่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.3
โดยการส่งออกที่เคยเป็นพระเอกนั้น ปีหน้าจะขยายตัวเหลือเพียงร้อยละ 1.2 จากในปีนี้ที่คาดว่าการส่งออกจะยังขยายตัวได้ร้อยละ 8 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยและในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้เพียงร้อยละ 2.7 ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อภาคการค้าและการส่งออกของไทยอย่างแน่นอน
โดยอัตราเงินเฟ้อ ในปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 3 เนื่องจากมองว่าตลาดยังคงเป็นของผู้ซื้อ ผู้ขายจึงยังไม่สามารถปรับราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นได้มากนัก ถึงแม้ว่าในปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูง ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเป็นหลักซึ่งไม่สามารถควบคุมได้
แต่ใช่ว่าปีหน้าจะหมดห่วงปัจจัยลบที่ยังมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจก็ยังมีอีกหลายด้าน โดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ทำให้ราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์และอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ถูกกดดันให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุน โลกทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศไทยเคลื่อนไหวผันผวนตามไปด้วย
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนทำให้การเข้าถึงสินค้าทุนลดลงส่งผลต่อการค้าโลก ในเรื่องของการขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะชิปซึ่งมีผลต่อการผลิตสินค้าสำคัญหลายรายการ หากยังไม่สามารถแก้ไขได้อาจส่งผลกระทบต่อการค้าในวงกว้าง จะดีไม่ดี เศรษฐกิจประเทศไทยในปีหน้าก็ยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการประคับประคอง จนกว่าความผันผวนจะหมดลงและภาวะเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews