Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ป๊อก 73 ปี พอแล้ว ป้อม 77 ยังไปต่อ !

การเมืองขยับชัดขึ้นอีกระลอกแล้ว เมื่อ 1ใน3ขุนพลทีม 3 ปอ. อย่าง “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประกาศต่อสาธารณชน ไม่ไปต่อกับ พี่ป้อม และน้องตู่แล้ว

 

 

 

โดยพี่รอง “บิ๊กป๊อก” ออกตัวชัด รูดม่านปิดฉากการเมือง ไม่ช่วยงานน้องตู่ไปสร้างฝัน ที่ค่ายรวมไทยสร้างชาติ ยอมรับอายุมากแล้ว พิจารณา ตัวเองไม่น่าเหมาะ เปิดทางคนมีความสามารถ มีความตั้งใจ ที่อายุน้อยมีเยอะ พร้อมย้ำว่าตนไม่อยู่แล้วการเมือง อนาคตนายกฯ เป็นคนไหนก็ไม่ทราบ
ซึ่งก่อนหน้านี้ “บิ๊กป๊อก”เคยส่งสัญญาณไม่ไปต่อการเมืองมาแล้วหลายครั้งอย่างเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2565 ที่ จ.เชียงใหม่

 

 

ในทำนองว่า”ผมหมดไฟแล้ว” หลังจากนี้ไม่กี่เดือน กลายเป็นแค่ตาแก่คนหนึ่ง หรือก่อนหน้านี้ก็พยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับประเด็นอนาคตการเมืองของตนเอง ซึ่งเมื่อดูทรงแล้วเชื่อว่า”บิ๊กป๊อก” อาจจะตัดสินใจลำบากถ้าจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่งระหว่างพี่ป้อมกับน้องตู่ เลยต้องมาลงเอยด้วยการอยู่ตรงกลาง กลับบ้านเลี้ยงหลานดีกว่า และแน่นอนว่า “บิ๊กป๊อก”

 

 

ใช้เหตุผลในการเลิกการเมือง ว่าเป็นเรื่องของอายุที่มากแล้ว ทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาอีกเพราะว่าปีนี้ “บิ๊กป๊อก” อายุ 73 ปี ประกาศบอกพอแล้ว ขณะที่พี่ป้อม ในวัย 77 ปี ยังเดินทางไกลโหยหาอำนาจต่อในฐานะหัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ และแคนนิเดตนายกรัฐมนตรี ส่วนน้องตู่ วัย 68 ปี ที่ครองอำนาจรากงอกมา8 ปีกว่าแล้ว ยังไปต่อในฐานะแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีจากค่ายรวมไทยสร้างชาติ มุ่งหน้าแย่งชิงอำนาจกันต่อไป

 

สำหรับ”บิ๊กป๊อก” เพิ่งได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า”หน้าชัด หลังเบลอ” ซึ่งมาจากในบรรดาพี่น้อง 3 ป. พลเอก อนุพงษ์ สามารถควบคุมภาพลักษณ์ ที่แสดงออกต่อสาธารณชนได้สงบนิ่งที่สุด แม้สื่อมวลชนจะได้สัมผัสความหลากของอารมณ์ขึ้นลง ไม่ต่างจากพี่น้องอีก 2 ป.ก็ตาม เบื้องหน้าเราจะได้รับรู้และเห็นเฉพาะในสิ่งที่ต้องการให้เห็นเท่านั้น แต่ฉากหลังกลับคลุมเครือไม่ชัดเจน เรียกได้ว่า เก็บมิด ปิดเงียบ

 

ที่ผ่านมา “บิ๊กป๊อก” ถูกจดจำในฐานะแม่ทัพรัฐประหารโค่นอำนาจทักษิณ ในหนังสือ “สนธิ-คมช.ขุนพลปฏิวัติ 2549 “เขียนโดยกองบรรณธิการไอเอ็นเอ็น ระบุว่าวันแตกหักในความสัมพันธ์เดินมาทางถึงในวันที่19 กันยายน 2549 โดยผู้ที่มีส่วนสำคัญที่สุดคือ อนุพงษ์ แม่ทัพภาค1 ในฐานะคุมกำลังและวางแผนการใช้กำลังเข้ายึดอำนาจได้อย่างรอบคอบและราบรื่น

 

 

โดยใช้กำลังทหารส่วนใหญ่มาจากกองทัพภาคทื่ 1 ซึ่งทาง อนุพงษ์ขอไฟเขียว บิ๊กบัง โยกย้ายทหารระดับผู้บังคับการกองพัน 129 คนรองรับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้หัวหน้าหน่วยคุมกำลังเป็นคนของอนุพงษ์ทั้งหมด กลายเป็นรัฐประหารแบบไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว

 

 

หลังจากนั้น อนุพงษ์ให้สัมภาษณ์กับมติชนสุดสัปดาห์ถึงความรู้สึกในเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ว่า”ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว สำหรับชีวิตทหารคนหนึ่งเพราะมันเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดในชีวิต” และจากนั้นอนุพงษ์ได้รับเลือกให้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 36 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2550 และเข้าสู่วงจรอำนาจที่ใหญ่ขึ้นในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลพล.อ ประยุทธ์ น้องรัก มายาวนาน จนกระทั่งประกาศ เตรียมล้างมือในอ่างทองคำ ในวันนี้ อย่างไรต้องติดตาม เมื่อปิดฉาก3 ปอ.ลงแล้ว2ปอ.ที่เหลือจะเป็นแค่แยกกันเดินเพื่อกลับมารวมกันตี หรือแตกสลายความสัมพันธ์ มันจบแล้วครับนายกันจริงๆ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube