สั่นสะเทือนรัฐบาลคนดีของบิ๊กตู่ อีกระลอกแล้ว เมื่อเสี่ยสมศักดิ์ ขาใหญ่สุโขทัย จรดปากกาสั่ง อธิบดีDSI นามหมอต้น หรือ”ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์” ไปเป็นการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เซ่นปมค้นบ้านพักหรูหลังหนึ่ง
ในเขตพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ที่เชื่อมโยงกับทุนจีนสีเทาแล้วมีการกล่าวอ้างถึงเจ้าหน้าที่ชุดบุกจับ มีการเรียกรับผลประโยชน์รวมเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมปล่อยตัวชาวจีนทั้งหมด จนหลบหนีออกนอกประเทศไปได้ ด้านเจ้าตัว นายไตรยฤทธิ์ เปิดปากให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวเนชั่น กรณีคำสั่งย้าย โดยระบุว่า ตนเองสมัครใจและเสนอขอย้ายออกจากตำแหน่งอธิบดี DSI เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายซึ่งตนได้เข้ารายงานให้กับทีมงานของนายกรัฐมนตรี และได้พูดคุยถึงแนวทางที่จะยุติ และให้การตรวจสอบเรื่องร้องเรียนต่างๆ ใน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินหน้าต่อไป ตนจึงเป็นฝ่ายขอย้ายออกเอง
ในส่วนประวัติของ อธิบดี ไตรยฤทธิ์ นั้นไม่ธรรมดาผ่านหลักสูตรหาคอนเน็คชั่นหลายแห่ง แต่ที่เด็ดสุดคือหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 มีเพื่อนร่วมรุ่นคนดังอย่างเสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ขณะนั้นมาในนามประธานกรรมการ บริษัทเอกชนและ ผู้กอง.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช. เกษตรและสหกรณ์ ต่อมาสละสิทธิ์ไม่ร่วมเข้าเรียนอ้างหาต้องการทำงานการเมือง และมี บิ๊กป้อม หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐมาเป็นประธานเปิดหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 61อีกด้วย
ส่วนอีกอธิบดีคนดังที่โดนเด้งไปก่อนหน้านี้อย่าง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่โดยกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัด ทางพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.มั่นใจพยานหลักฐานที่มีอยู่ จะสามารถเอาผิดได้ แม้จะมีพยานหลายคนปฏิเสธไม่ได้จ่ายเงินวิ่งเต้นตำแหน่ง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องถูก ป.ป.ช. ไต่สวนอยู่ดี ซึ่งเชื่อว่าเมื่อถึงกระบวนการนั้น จะมีพยานกลับคำให้การอีกหลายคน เพราะไม่มีใครอยากตกเป็นผู้ต้องหา
ก่อนหน้านี้เคยปรากฏการเด้งบิ๊กราชการมาแล้วหลายรายเช่น 15 มี.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ปมเรื่องหน้ากากอนามัย ต่อมา 20 พ.ค. 63 นายกรัฐมนตรี สั่งโยก นายวิชัย กลับสู่ตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หลังเด้งปมกักตุนหน้ากากอนามัย ผลสอบไม่พบความผิด หรือจะเป็นเคทการโยกย้ายสลับตำแหน่งอธิบดี 3 กรมในกระทรวงคมนาคม
ส่วนอีกบิ๊กราชการคนดังอย่าง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เจ้าของวลีเด็ด “โง่เป็นควาย” “ไร้คุณภาพ” นั้นหลังเกิดเหตุโพสต์ข้อความขอโทษผ่านเฟสบุ๊ค ว่า เป็นแค่การ “หยอกเย้า” ต่อมาเขาทำหนังสือชี้แจ้งถึงประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ในทำนองว่า มิได้มีเจตนาดูหมิ่นและล่วงเกินสถาบันการศึกษาแต่อย่างใด พร้อมขออภัยที่การสื่อสารเป็นต้นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งขณะนี้ดูเหมือนว่าเรื่องจะเงียบหายไปกับสายลมแล้ว
นอกจากเรื่องร้อนๆ 2 อธิบดีกับ 1 ปลัดแล้ว
ล่าสุดยังมีประเด็นร้อนไฟลุกอีกเมื่อนายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นว่า บิ๊กกรมประชาสัมพันธ์รายหนึ่ง ส่อมีเงื่อนงำในการก่อสร้างอาคาร และอาจมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ทางกมธ.ฯ จะยื่นเรื่องทั้งหมดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ต่อไป อย่างไรก็ตามต้องติดตามมหรสพโรงเชือดครั้งสุดท้าย เมื่อฝ่ายค้ายประกาศจะกระชากหน้ากากคนดี ว่าจะดุดันไม่เกรงใจใคร ได้แค่ไหน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews