ยิ่งใกล้ครบกำหนด วาระ 4 ปี ของสภาผู้แทนราษฏร พรรคการเมืองต่างๆ ก็โหมโรง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กันอย่างคึกคัก มีทั้งคนเด่น คนดัง ทายาทนักธุรกิจ-นักการเมือง ที่หวังสานต่อความเป็นบ้านใหญ่ ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
ทำให้บรรยกาศการเมืองมีสีสันมากเป็นพิเศษ และนอกเหนือจากตัวบุคคล นโยบายหาเสียง ถือเป็นส่วนสำคัญ ที่พรรคต่างๆต้องนำมาเสนอ ต้องนำมาขายฝันกับประชาชน ว่าจะทำอะไรให้ชาวบ้าน ซึ่งเวลานี้หลายพรรคทยอยเปิดชุดความคิด แนวนโนยายที่จะเป็นสัญญาประชาคมกันออกมาบ้างแล้ว
บางพรรคเปิดมาปุ๊บก็ว้าวโดนใจแฟนคลับ บางพรรคประกาศมาก็มีเสียงโห่ตามหลังให้ต้องทบทวน อัพเกรดกันใหม่ หากต้องการคว้าชัยชนะ และตราบใดยังไม่มีพระราชกฤษฏีกา กำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทุกพรรคการเมือง ก็ยังสามารถปรับแต่ง แปลงโฉมจุดขายของตัวเองให้โดนใจมากยิ่งขึ้นได้ เหมือนกับที่บางพรรคกำลังทำ ค่อยๆเปิด อันไหนเสียงตอบรับดีก็ทำต่อ อันไหนมีเสียงยี้ ก็ค่อยๆปล่อยผ่าน แล้วเปลี่ยนใหม่ในชุดถัดมา
เพื่อไทย เปิดตัวนโยบายก่อนเป็นพรรคแรกด้วยสโลกแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น” เพื่อแลนด์สไลด์ สร้างความฮือฮาด้วยการเสนอค่าแรงขั้นต่ำ จะปรับให้ถึง 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ส่วนปริญญาตรี 2หมื่นห้า และอัพเกรด 30 บาทรักษาทุกโรค แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ขายได้ขายดี ได้ใจรากหญ้า และผู้ใช้แรงงาน
เพราะปัจจุบันทุกอย่างแพงหมด ยกเว้นค่าแรง เพราะพลังประชารัฐทำไม้ได้ตามที่เคยหาเสียงไว้ ต่อกันที่ “ภูมิใจไทย” ที่ประกาศจะสถาปนาตัวเองเป็นพรรคหลัก เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้จุดขาย “พูดแล้วทำ” ด้วยนโยบายสำคัญ “พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย -ติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์เพื่อลดค่าใช้จ่าย, ตั้งศูนย์รังสีรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกจังหวัด ศูนย์ไตเทียมทุกอำเภอ”
แต่ก็ถูกกระแสกัญชาตีกลับเพราะกฏหมายยังผ่าน ขณะ “ก้าวไกล” ชูนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า ดูแลตั้งแต่เกิดจนตาย ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มต้น 450 บาทต่อวัน แต่จุดบอดคือเรื่องแก้ ม.112 ซึ่งถูกต่อต้านจากอีกกลุ่มอย่างรุนแรง ด้าน พลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่แยกกันเดินกับน้องรัก เปิดตัวเนิบๆ สานต่อนโยบายเดิม บัตรคนจนเพิ่มเป็นเดือนละ 700 หรือแม้แต่คนละครึ่ง
ซึ่งไม่หวือหวาโดดเด้งมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมให้รวมไทยสร้างชาติต้องหวั่นไหวพอสมควร เพราะนโยบายยังไม่ชัด หวังแค่จะขายชื่อ พล.อ.ประยุทะ” เท่านั้น ส่วนพรรคปิดท้าย “ประชาธิปัตย์” กับคีย์เวิร์ด “สร้างเงิน-สร้างคน-สร้างชาติ” มุ่งด้านเกษตร และชุมชนเป็นหลัก
แม้จะยังยึดติดกับของเดิมประกันรายได้ แต่ที่เติมเติมคือทำให้เห็นแล้ว ทำได้จริง ทำได้ไว และจะต่อยอดด้วย ชาวนารับ 30,000 บาทต่อ 1 ครัวเรือน เรียนฟรี และธนาคารหมู่บ้าน ชุมชน แห่งละ 2 ล้านทั้งประเทศ ทั้งหมดนี้คือนโยบายของพรรคหลักที่คาดว่าจะมี ส.ส.เข้าสภาได้แบบไม่ยากเย็น ส่วนของใครจะปัง โดดเด่นโดนใจประชาชนบ้าง คงต้องให้ถึงวันเลือกตั้ง ถึงจะรู้คำตอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
