Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

บูมหุ้นเลือกตั้ง-รถกระบะฟีเวอร์

ยุบสภา เลือกตั้งใหม่” คือ สตอรี่ใหญ่ ที่ถูกพูดถึงในขณะนี้ นั่นเพราะพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีผลบังคับใช้เมื่อ 29 ม.ค.66 ถือเป็นสัญญาณอย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

 

 

ซึ่งฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองว่า จากนี้ไปจะเห็นพัฒนาการของข่าวการเมืองที่หนาตามากขึ้นทั้งนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์เลือกตั้งใหม่ จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจจากเม็ดเงินลงพื้นที่ ผ่านการทำกิจกรรมการเมือง ที่ว่ากันว่า จะมีมากถึง 4-5 หมื่นล้านบาท ดันจีดีพีโต 3-4%

 

นอกจากนี้ การเลือกตั้งย่อมส่งผลให้เกิดความมั่งคั่งในฝั่งตลาดทุน โดยเฉพาะหุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนการเมือง ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน คาด SET ตอบรับการเลือกตั้งใหญ่ 2566 ดีกว่าค่าเฉลี่ยผลตอบแทนช่วง 1-3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด ที่ให้ผลตอบแทนราว 2.1-2.3%

 

ทั้งนี้ ภายหลังการเลือกตั้ง จะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจหลังไทยเตรียมความพร้อมล่วงหน้า โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างต่างๆ ทั้งโครงสร้างภาษี โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่มีการอนุมัติในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา กว่า 85% จะทยอยเปิดในสมัยรัฐบาลชุดถัดไป

 

ไม่เพียงเท่านี้ การเลือกตั้งยังทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความคึกคักด้วยเช่นกัน โดย นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บอกกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การหาเสียงเลือกตั้งของเหล่าบรรดาพรรคการเมืองก็ต้องมีการใช้รถหาเสียง โดยเฉพาะรถกระบะ และ รถ PPV หรือ รถอเนกประสงค์ที่มาจากกระบะดัดแปลงเป็นรถยนต์นั่ง จะได้รับความนิยม เพราะสามารถเข้าไปหาเสียงในพื้นที่ทุรกันดารได้ ซึ่งคาดว่าในช่วงจังหวะเวลาดังกล่าวจะดันให้ยอดขายรถเพิ่มขึ้นอีก

 

“โดยปกติรถกระบะก็ขายดีอยู่แล้ว ซึ่งในการหาเสียงยังคิดว่าตัวรถกระบะและรถพีพีวี แล้วแต่คนจะชอบ ก็จะเป็นรถที่ว่าบรรทุกคนบุกเข้าไปในที่ทุรกันดารค่อนข้างได้ เรียกได้ว่า เป็นรถออฟโรดขับสี่ หรือขับสองก็แล้วแต่”

ขณะที่ภาพรวมการผลิตรถยนต์ในเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมามีจำนวนทั้งสิ้น 1,883,515 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 11.73 ส่วนเป้าหมายปีนี้ 2566 ทั้งการผลิตและการส่งออกมีตัวเลขที่น่าสนใจ

 

“เราก็ได้ตั้งเป้าไว้แล้วว่าการส่งออกเราน่าจะได้สัก 1.05 ล้านคัน ก็จะโตจากปีที่แล้วอยู่หน่อยนึง เพราะเมื่อปีที่แล้วเราส่งออกได้ 100,256 คัน ยอดขายในประเทศ เราก็ตั้งเป้าอยู่ที่ 9 แสนคัน ก็จะโตจากเมื่อปีที่แล้วหน่อยนึง ที่เราได้ประมาณ 849,000 คัน อันนี้ก็ถือว่าเราดูแล้ว เศรษฐกิจของเรา ก็น่าที่จะดีขึ้น” และนี่ ก็คือ ก็คือมุมมองของตลาดหุ้นและภาคธุรกิจต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะทุกย่างก้าว ย่อมมีผลต่อเศรษฐกิจไทยนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube