ไม่เบาเลยกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งจากการระบาดของโควิด 19 และโรค ASF ในสุกร ส่งผลทำให้ราคาเนื้อสุกรพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
และฟาร์มเลี้ยงขนาดเล็กต้องมีการปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้กลับมาเลี้ยงได้เป็นปกติ แต่ก็พูดได้ว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น
โดยนายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ล่าสุดราคาสุกรเป็นหน้าฟาร์มทั่วประเทศเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 82.90 บาท จากช่วงที่เคยพุ่งสูงสุดเกินกิโลกรัมละ 100 บาท ทำให้ราคาจำหน่ายหน้าเขียง พุ่งขึ้นเกินกิโลกรัมละ 200 บาทส่งผลกระทบกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
เวลานี้ได้ประชุมร่วมกับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหารือติดตามสถานการณ์ราคาสุกรในประเทศที่ราคาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยได้กำชับพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดที่มีฟาร์มเลี้ยงสุกร และจังหวัดใกล้เคียง ให้ติดตามสถานการณ์ด้านราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ เพราะภาพรวมทั้งประเทศขณะนี้ราคาสุกรต้องปรับลดลงแล้ว ทั้งราคาสุกรเป็นหน้าฟาร์มและสุกรชำแหละ โดยราคาได้ทยอยปรับลดลงตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในแต่ละพื้นที่อาจมีราคาไม่เท่ากัน
โดยเวลานี้ได้ขอความร่วมมือไปยังพ่อค้าแม่ค้าเขียงสุกรชำแหละ แผงค้าสุกรต่าง ๆ ให้ปิดป้ายราคาจำหน่ายอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาได้ ซึ่งราคาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริง โดยราคาสุกรหน้าเขียงมีวิธีการคำนวณ แบบง่ายจะใช้สูตรราคาหน้าฟาร์มคูณ2บวก5บาท ทำให้ราคาหน้าเขียงเวลานี้เฉลี่ยไม่ควรเกินกิโลกรัมละ 180 บาท แต่อย่างไรก็ตามในแต่ละพื้นที่อาจมีราคาไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับต้นทุนการขนส่งด้วย
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยังบอกด้วยว่า สถานการณ์การเลี้ยงสุกรเวลานี้ฟาร์มขนาดเล็กเริ่มกลับมาเลี้ยงสุกรมากขึ้นแล้ว ทำให้ราคาปรับลดลงได้ แต่จากราคาที่ปรับลดลงอาจทำให้ฟาร์มเลี้ยงขนาดเล็กชลอการเลี้ยงไว้อีกครั้ง จึงต้องมีการติดตามสถานการณ์ราคาและดูแลในส่วนของการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับเกษตรกรรายเล็กในประเทศ
และในพื้นที่ใดหากมีการเคลื่อนไหวของราคาผิดปกติพาณิชย์จังหวัดจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที และหากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมต่อเนื่อง และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews